top of page

เมื่อโควิดมา: การดูแลสุขภาพจิตเมื่อต้องอยู่บ้านและทำงานแบบ WFH

  • SARUP Overseer
  • Apr 1, 2020
  • 1 min read

Updated: Apr 25

ปี 2020 คือปีแห่งการเปลี่ยนแปลงแบบไม่ทันตั้งตัว เมื่อโลกทั้งใบต้องหยุดชะงักเพราะเชื้อไวรัส COVID-19 ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในทุกทวีป หลายประเทศเริ่มประกาศล็อกดาวน์ ปิดพรมแดน และปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน หนึ่งในมาตรการที่กลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ทั่วโลกคือ “Work From Home” หรือการทำงานจากที่บ้าน


Silhouette of a person facing a large window in a dark room, creating a stark contrast with the bright outdoor light. Mood is introspective.

แม้การทำงานจากบ้านจะดูเป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน แต่เมื่อต้องทำอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การเว้นระยะห่างทางสังคม และความกลัวต่อสุขภาพของตนเองและครอบครัว สิ่งที่ตามมาโดยไม่ทันรู้ตัวก็คือ “ภาวะความเครียด” และ “สุขภาพจิตที่ถูกละเลย”


วิถีใหม่ที่ไม่พร้อม: เมื่อบ้านกลายเป็นที่ทำงาน และใจยังไม่ปรับ

ในช่วงเริ่มต้นของการระบาด หลายองค์กรตัดสินใจให้พนักงานทำงานจากบ้านอย่างเร่งด่วน โดยไม่มีเวลาเตรียมตัวหรือออกแบบกระบวนการรองรับอย่างเหมาะสม ทำให้พนักงานหลายคนต้องรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อน ทั้งเรื่องเทคโนโลยี การสื่อสารที่ขาดประสิทธิภาพ และการบาลานซ์ชีวิตส่วนตัวกับงาน


เมื่อพื้นที่ทำงานกลายเป็นมุมเล็ก ๆ ในห้องนั่งเล่น หรือโต๊ะกินข้าว ความรู้สึก “แยกไม่ออก” ระหว่างเวลางานกับเวลาส่วนตัวเริ่มก่อตัวขึ้นแบบเงียบ ๆ โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีลูกเล็กหรือสมาชิกผู้สูงอายุ การทำงานที่บ้านไม่ใช่แค่เรื่องของ Productivity แต่คือการ “อยู่รอดทางอารมณ์”


COVID-19 ไม่ได้ระบาดแค่ร่างกาย แต่กระทบจิตใจเป็นลูกโซ่

หลายงานวิจัยในปี 2020 ทั้งจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และศูนย์สุขภาพจิตในหลายประเทศชี้ชัดว่า ความวิตกกังวล ซึมเศร้า และภาวะ Burnout เพิ่มขึ้นในกลุ่มคนวัยทำงานที่ทำงานจากบ้าน โดยเฉพาะในช่วงล็อกดาวน์ระลอกแรก


หนึ่งในอาการที่หลายคนไม่ทันสังเกตคือ “ภาวะเหนื่อยล้าเรื้อรังจากหน้าจอ” หรือ Zoom Fatigue ที่เกิดจากการประชุมออนไลน์ต่อเนื่องหลายชั่วโมง จนร่างกายและจิตใจไม่สามารถฟื้นตัวได้ตามธรรมชาติ อีกทั้งการขาดการปฏิสัมพันธ์แบบตัวต่อตัว ทำให้ความรู้สึกโดดเดี่ยว (Isolation) เพิ่มขึ้น


การดูแลตนเองเชิงจิตวิทยา (Self-care Psychology) คือสิ่งจำเป็นไม่แพ้วัคซีน

ในยุคที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ภายนอกได้ สิ่งที่เราควบคุมได้มากที่สุดคือ “ตัวเอง” และ “ความคิดของเรา” การดูแลสุขภาพจิตจึงไม่ใช่เรื่องรอง แต่เป็น “ภูมิคุ้มกันภายใน” ที่ต้องบำรุงอย่างต่อเนื่อง

หลักการ Self-care เชิงจิตวิทยาที่สำคัญในช่วง WFH ได้แก่:

  1. ตั้งขอบเขตระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัว (Set Boundaries)กำหนดเวลาเลิกงานชัดเจน แม้จะอยู่บ้าน อย่าให้งานล้ำเข้ามาในเวลา “พักผ่อนใจ”

  2. เช็คอินอารมณ์ตัวเองวันละหนึ่งครั้งถามตัวเองทุกวันว่า “วันนี้รู้สึกยังไง” การตระหนักรู้ในอารมณ์ตนเองเป็นก้าวแรกของการเยียวยา

  3. เชื่อมโยงกับผู้อื่นอย่างตั้งใจ (Intentional Connection)แม้จะห่างไกลทางกาย แต่ยังสามารถติดต่อเพื่อนร่วมงานหรือครอบครัวผ่านช่องทางออนไลน์ และสื่อสารด้วยความจริงใจ

  4. พักหน้าจอเป็นระยะ และหากิจกรรมที่ใช้ร่างกาย (Digital Detox)เช่น เดินเล่นรอบบ้าน โยคะ หรือแม้กระทั่งปลูกต้นไม้เล็ก ๆ ก็ช่วยให้สมองได้หยุดพักจากภาระข้อมูลดิจิทัล


การรับมือไม่ใช่การหลีกหนี แต่คือการปรับมุมมอง

ในทางจิตวิทยา เราไม่สามารถ “หลีกหนี” ความเครียดได้ 100% แต่สามารถ “เลือกวิธีตอบสนอง” ได้ การฝึกสติ (Mindfulness) การหายใจลึก ๆ (Deep Breathing) และการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยา ล้วนเป็นวิธีที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถลดภาวะตึงเครียดและซึมเศร้าได้

องค์กรหลายแห่งเริ่มตื่นตัวและสนับสนุนโครงการ “Mental Health Support” ให้กับพนักงาน เช่น การให้สิทธิเข้าพบจิตแพทย์ออนไลน์ การเปิดสายปรึกษา หรือจัดกิจกรรมผ่อนคลายผ่าน Zoom


บทเรียนจากโรคระบาด: ความสำคัญของ “ใจ” ที่เท่าเทียมกับ “งาน”

แม้สถานการณ์ในปี 2020 จะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนขึ้นคือ “ความสำคัญของสุขภาพจิต” ที่เคยถูกมองข้าม กลับกลายเป็นจุดตั้งต้นของการพูดคุยในที่ทำงานและในระดับสังคมมากขึ้น

เราเรียนรู้ว่า “ความเก่ง” ไม่ได้วัดจากจำนวนชั่วโมงที่ทำงาน แต่คือความสามารถในการดูแลตัวเองเมื่อโลกภายนอกสั่นคลอน การเอาใจใส่ภายในจึงไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือ “พลังใหม่” ที่จะพาเรารอดพ้นจากวิกฤติในแบบที่เข้มแข็งกว่าเดิม


การระบาดของ COVID-19 คือเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด แต่เป็นโอกาสให้มนุษย์ได้ “ย้อนดูข้างใน” อีกครั้ง ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดอาจไม่ใช่แค่เงินเดือนหรือเป้าหมายทางอาชีพ แต่คือความสามารถในการรักษาสมดุลของ “ใจ” ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงไม่หยุด

สุขภาพจิตที่ดี ไม่ใช่เรื่องของคนที่ “มีปัญหา” แต่คือสิ่งที่ทุกคนควรใส่ใจเหมือนกับการล้างมือหรือใส่หน้ากาก การดูแลใจไม่ใช่ทางเลือก แต่คือหน้าที่ของชีวิตในโลกหลังโควิด

หากต้องการฉบับ eBook หรือ infographics ประกอบบทความนี้เพิ่มเติม บอกได้นะครับ หรือหากต้องการแปลเป็นภาษาอังกฤษสำหรับเผยแพร่ต่อในระดับนานาชาติ ผมก็สามารถช่วยได้เช่นกัน.

Comments


ติดต่อเรา
253 อาคาร 253 อโศก ชั้น 29
แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110
ติดต่อโฆษณา 084-691-6161

สรุปเรื่องเด่น

นโยบายความเป็นส่วนตัว

สรุปไปเรื่อย

นโยบายคุกกี้

สรุปไลฟ์

สรุปเกมมิ่ง

  • Instagram
  • Facebook
  • Twitter

©2022 by Sarup.online Proudly created by Aktivist Group

bottom of page