สรุปเรื่องราวตำนานเทพอียิปต์ - จากการสร้างโลก สู่ความตาย และการล่มสลาย
- SARUP Librarian
- Jun 1, 2020
- 1 min read
ในทะเลทรายร้อนระอุของอียิปต์โบราณ ท่ามกลางแม่น้ำไนล์ที่ไหลเอื่อยอยู่ท่ามกลางภูมิประเทศที่เหมือนจะไม่มีชีวิต สายลมพัดผ่านซากอารยธรรมอันรุ่งเรืองที่เคยยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เหล่าผู้คนในอดีตเชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่มีเทพเจ้ากำหนดเส้นทางของจักรวาลไว้หมดแล้ว ตั้งแต่เม็ดทรายเม็ดแรก ไปจนถึงวันสิ้นโลกที่สรรพสิ่งกลับคืนสู่ความว่างเปล่า

เรื่องราวของเทพเจ้าในอียิปต์เริ่มต้นจาก “นูน” ความว่างเปล่าที่ไม่มีรูปร่าง ไม่มีแสง ไม่มีความมืด ไม่มีบน ไม่มีล่าง ไม่มีทิศ ไม่มีเวลา เป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่มีจุดเริ่มต้น ในที่นั้นเอง เทพองค์แรกก็ถือกำเนิดขึ้นมาจากตัวเอง เขาชื่อว่า “รา” หรือบางตำนานเรียก “อาตุม” เทพเจ้าผู้เปล่งแสง ราสร้างโลกขึ้นมาโดยพ่นน้ำลายหรือน้ำเชื้อ แล้วแปลงมันให้กลายเป็นเทพสององค์ คือ ชู (อากาศ) และเทฟนุต (ความชื้น) จากนั้นสองเทพนี้ให้กำเนิดเทพเก็บ (โลก) และเทพีนัต (ท้องฟ้า) ซึ่งเป็นคู่พี่น้องที่รักกันจนต้องแยกออกจากกัน ชูจึงเป็นผู้ยกนัตขึ้นไปให้ห่างจากเก็บ เพื่อสร้างท้องฟ้าและผืนแผ่นดิน จากนั้น เทพเจ้าก็ทยอยเกิดขึ้นทีละองค์ พร้อมหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป เช่น เทพอนูบิส ผู้ดูแลการดองศพและการนำวิญญาณเดินทางไปสู่โลกหน้า เทพีบาสต์ เทพีแมวที่คุ้มครองบ้านเรือนและครอบครัว เทพีเซคเมต เทพีสิงโตแห่งสงครามและโรคระบาด เทพทอธ ผู้บันทึกทุกสิ่งและดูแลเรื่องเวทมนตร์ ความรู้ และกาลเวลา
เทพเจ้าบางองค์จึงรับผิดชอบด้านแสงสว่าง บางองค์ดูแลความตาย บางองค์มีหน้าที่รักษาความยุติธรรม บางองค์ทำหน้าที่ทำลายเพื่อนำไปสู่การเกิดใหม่ เหล่าเทพทำให้จักรวาลเดินหน้าไปอย่างมีระเบียบ และในบรรดาตำนานเทพเหล่านั้น ไม่มีตำนานไหนเล่ากันมากเท่าเรื่องของเทพโอซิริส
โอซิริสเป็นเทพที่ได้รับการเคารพอย่างสูงสุด เป็นผู้ดูแลโลกให้อยู่กันอย่างสงบสุข เป็นตัวแทนแห่งความดี ความยุติธรรม และความเมตตา แต่เขากลับต้องถูกหักหลังจากคนใกล้ตัวที่สุด น้องชายของเขา เทพเซธ ผู้เป็นตัวแทนของพายุ ความปั่นป่วน และการทำลาย ไม่พอใจที่โอซิริสได้รับความรักจากผู้คนมากกว่า เซธจึงวางแผนลวงให้พี่ชายเข้าไปในโลงศพที่สร้างไว้พอดีกับร่างของเขา แล้วปิดผนึกไว้แน่น ก่อนจะโยนลงแม่น้ำไนล์ ไม่เพียงแค่นั้น เซธยังนำศพของโอซิริสกลับมาและตัดร่างออกเป็นชิ้น ๆ ทิ้งกระจายไปทั่วแผ่นดินอียิปต์ เพื่อไม่ให้เขาฟื้นกลับมาอีก แต่ความรักของเทพีไอซิส ภรรยาของโอซิริส ไม่เคยหมดลง เธอออกเดินทางตามหาชิ้นส่วนของสามีจนครบ แล้วใช้เวทมนตร์โบราณปลุกเขาขึ้นมาได้ชั่วคราว ในเวลาสั้น ๆ นั้นเอง ไอซิสตั้งครรภ์และให้กำเนิดฮอรัส ลูกชายของเทพโอซิริส ฮอรัสเติบโตขึ้นด้วยความตั้งใจแน่วแน่ว่าจะล้างแค้นให้พ่อ เขาฝึกฝนอย่างหนัก จนเมื่อพร้อม เขาออกไปต่อสู้กับเซธในการศึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเทพเจ้า การต่อสู้นี้กินเวลานาน บางตำนานเล่าว่ามีการแปลงร่างเป็นสัตว์ต่าง ๆ ต่อสู้กันกลางทะเลทราย หรือแม้แต่สู้กันด้วยไหวพริบในการตัดสินของเทพองค์อื่น และสุดท้าย ฮอรัสชนะ เซธพ่ายแพ้ และระเบียบก็กลับคืนสู่โลกอีกครั้ง
เรื่องราวนี้เองเป็นที่มาของความเชื่อว่า “ฟาโรห์” ซึ่งเป็นกษัตริย์ของอียิปต์ ไม่ใช่เพียงมนุษย์ธรรมดา แต่เป็นตัวแทนของฮอรัสบนโลก เมื่อยังมีชีวิตเขาคือฮอรัส แต่เมื่อเสียชีวิต เขาจะกลายเป็นโอซิริส ผู้เฝ้าโลกหลังความตาย นี่คือวงจรของกษัตริย์อียิปต์—เป็นทั้งเทพเจ้า ผู้ปกครอง และวิญญาณนิรันดร์ แต่แม้ว่าจะมีฟาโรห์และเทพเจ้าคอยปกป้อง แต่ทุกค่ำคืน โลกก็ยังต้องเผชิญหน้ากับความมืด เทพเจ้าราในร่างเรือสุริยะ ต้องแล่นฝ่าทะเลแห่งยมโลก และต่อสู้กับงูยักษ์อาเพฟที่ต้องการกลืนกินแสงสว่าง หากราและเหล่าเทพแพ้ โลกจะจมอยู่ในความมืดตลอดกาล แต่ตราบใดที่ยังมีเทพคอยสู้ ความสว่างจะกลับมาใหม่ทุกเช้า ในการเดินทางสู่โลกหน้า วิญญาณของผู้ตายจะถูกตัดสินโดยพิธีกรรมที่มีเทพอนูบิสเป็นผู้ทำหน้าที่ชั่งน้ำหนักหัวใจของคนตายกับขนนกแห่ง "มัต" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความจริงและความยุติธรรม หากหัวใจของผู้ตายเบาพอ จึงจะได้เดินทางต่อไปสู่อาณาจักรของโอซิริส แต่ถ้าหนักเกินไป จะถูกสัตว์ปีศาจกลืนกินอย่างไม่มีวันฟื้นคืน โดยจะมีเทพทอธ ผู้จดบันทึกความจริงของพิธีกรรม และเทพีมัต ผู้เป็นตัวแทนของความยุติธรรม ยืนอยู่ข้าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎแห่งจักรวาล
ในช่วงเวลาของชีวิต คนอียิปต์เชื่อว่าควรบูชาเทพต่าง ๆ เพื่อค้ำจุนโลกใบนี้ เช่น บูชาเทพีบาสต์ให้คุ้มครองบ้านเรือน บูชาเทพีเซคเมตเพื่อขอให้สงครามและโรคระบาดผ่านพ้นไป หรือบูชาเทพีฮาเธอร์ เทพีแห่งความรักและดนตรี เพื่อให้อุดมสมบูรณ์และมีความสุขในชีวิตประจำวัน ทั้งหมดนี้เป็นกลไกที่ทำให้โลกของพวกเขาอยู่ได้ ทั้งกลางวันและกลางคืน ทั้งในชีวิตและหลังความตาย ทั้งในความสุขและในความทุกข์
และสุดท้าย เมื่อโลกถึงวาระ ความสมดุลจะพังลง ความดีจะพ่ายแพ้ มนุษย์จะลืมการเคารพเทพเจ้า ท้องฟ้าจะร่วงหล่นลงมา ผืนดินจะถูกกลืนกินด้วยเปลวเพลิง ทะเลทรายจะกลายเป็นมหาสมุทร และโลกจะกลับคืนสู่ "นูน" ความว่างเปล่าอีกครั้ง และจากนูนนั้น โลกใหม่จะถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง วัฏจักรที่ไม่มีวันสิ้นสุด
Comments