เริ่มต้นหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของไทย การสมรสเท่าเทียม
- SARUP Reporter
- Jan 24
- 1 min read
Updated: Apr 28
สมรสเท่าเทียมมาถึงแล้ว เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2568 เป็นวันที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมฉบับที่ได้รับการปรับปรุงมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการแล้ว กฎหมายสมรสเท่าเทียมนี้ คือ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567
จริง ๆ แล้วนั้นกฎหมายสมรสเท่าเทียมคือกฎหมายสมรสเดิมที่มีการปรับปรุงจากเดิม ที่ ”การสมรสจะทำได้เฉพาะเพศสภาพ ชายและหญิง เท่านั้น” กฎหมายเปลี่ยนมาใช้คำว่า "บุคคล" สองคน แทนคำว่า “ชาย” และ “หญิง” ทำให้บุคคลไม่ว่าจะมีเพศใดก็สามารถสมรสกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และใช้คำว่า "คู่สมรส" แทน "สามี" และ "ภริยา" เพื่อให้ครอบคลุมถึงบุคคลทุกเพศ
โดยได้สิทธิต่าง ๆ เหมือนคู่สมรสแบบชายหญิงทุกประการ เช่น สิทธิในการตัดสินใจทางการแพทย์ของคู่สมรส, สิทธิทางทรัพย์สินสมรส, สิทธิการดูแลบุตร,

คุณสมบัติผู้จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม
1. บุคคลทั้งสองจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ กรณีผู้เยาว์ต้องนำบิดามารดาหรือผู้ปกครองมาให้ความยินยอมด้วย กรณีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องได้รับอนุญาตจากศาล
2. ไม่เป็นคนวิกลจริต หรือไร้ความสามารถ
3. ไม่เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดา หรือร่วมแต่บิดามารดา
4. สถานะการสมรสของทั้งสองฝ่ายต้องไม่เป็นคู่สมรสกับบุคคลอื่นอยู่ ณ ขณะนั้น หากเคยสมรสมาก่อน ต้องมีการหย่าร้างหรือการสิ้นสุดการสมรสตามกฎหมายแล้ว
5. ผู้รับบุตรบุญธรรมจะสมรสกับบุตรบุญธรรมไม่ได้
6. ระยะเวลารอคอย (สำหรับหญิง) หญิงที่ชายผู้เป็นคู่สมรสตาย หรือการสมรสสิ้นสุดลงด้วยประการอื่น จะสมรสใหม่ได้ต่อเมื่อสิ้นสุดการสมรสไปแล้วไม่น้อยกว่า 310 วัน เว้นแต่
คลอดบุตรแล้วในระหว่างนั้น
ศาลมีคำสั่งให้สมรสได้
สมรสกับคู่สมรสเดิม
บุคคลที่มีอายุไม่ครบ 18 ปีบริบูรณ์ ศาลอาจอนุญาตให้สมรสได้
มีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ได้ตั้งครรภ์
วิธีการและขั้นตอนการจดทะเบียนสมรส
การเตรียมเอกสาร เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอกสารครบถ้วนและถูกต้องครับ
บุคคลสัญชาติไทยทั้งสองฝ่าย
- บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง หรือหลักฐานยืนยันตัวตนทางดิจิทัล เช่น แอปพลิเคชัน ThaID
บุคคลสัญชาติไทยและชาวต่างชาติ
- บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของคนไทย หรือหลักฐานยืนยันตัวตนทางดิจิทัล
- หนังสือเดินทาง (Passport) ของชาวต่างชาติ
- หนังสือรับรองสถานภาพการสมรส (Certificate of No Impediment to Marriage) ที่ออกโดย สถานทูตหรือสถานกงสุลของประเทศที่ชาวต่างชาติถือสัญชาติ ซึ่งรับรองว่าบุคคลนั้นมีสถานะ โสด และสามารถสมรสได้ หนังสือรับรองนี้ต้องได้รับการแปลเป็นภาษาไทยและรับรองโดยกรมการ กงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
บุคคลต่างชาติทั้งสองฝ่าย
- หนังสือเดินทาง (Passport) ของทั้งสองฝ่าย
- หนังสือรับรองสถานภาพการสมรสของทั้งสองฝ่าย ซึ่งต้องได้รับการแปลและรับรองเช่นเดียวกัน
กรณีเคยสมรสมาก่อน
- ใบสำคัญการหย่า หรือคำสั่งศาลที่แสดงว่าการสมรสสิ้นสุดลงแล้ว
- กรณีหญิงที่เคยสมรส หากยังไม่พ้นระยะเวลา 310 วันหลังการสมรสสิ้นสุดลง ต้องมีเอกสาร เพิ่มเติม เช่น ใบรับรองแพทย์ว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ หรือคำสั่งศาลอนุญาตให้สมรสได้
พยาน
- พยานบุคคล 2 คน ที่มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง
การยื่นคำร้อง - สถานที่
ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรส (คร.1) ณ สำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอ ในท้องที่ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ และสถานกงสุลไทยในต่างประเทศ หรือสถานที่ที่นายทะเบียนกำหนด เช่น ในบางครั้งอาจมีการจัดกิจกรรมพิเศษที่เปิดให้จดทะเบียนสมรสในสถานที่อื่นๆ
การตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสาร
เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติของคู่สมรส หากถูกต้องครบถ้วน จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
การจดทะเบียน
1. คู่สมรสและพยานลงลายมือชื่อในทะเบียนสมรส
2. เจ้าหน้าที่จะออกทะเบียนสมรสให้เป็นหลักฐาน
ค่าธรรมเนียม
1. การจดทะเบียนสมรส ณ สำนักทะเบียนที่จด ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
2. การจดทะเบียนสมรสนอกสำนักงาน ในบางกรณี อาจสามารถขอจดทะเบียนสมรสนอกสำนักงานได้ โดยต้องมีเหตุผลอันสมควรและเสียค่าธรรมเนียม 200 บาท หรือตามที่กำหนด
เพิ่มเติม
การสมรสกับชาวต่างชาติ มีรายละเอียดและขั้นตอนที่ซับซ้อนมากกว่า ควรศึกษาข้อมูลจากสถานทูตหรือสถานกงสุลของประเทศที่เกี่ยวข้อง หรือสอบถามเจ้าหน้าที่โดยตรง
หากต้องการทำสัญญาก่อนสมรส ควรจัดทำเป็นลายลักษณ์อักษรและลงนามโดยคู่สมรสและพยาน ก่อนการจดทะเบียนสมรส
Comments