ทีมงานสรุป แจกสูตรอาหาร กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา แบบเบสิก
- SARUP Sage
- Jul 4
- 2 min read
ในโลกของอาหารไทยที่มีความหลากหลายและรสชาติที่เข้มข้น มีสูตรอาหารสูตรหนึ่งที่ดูเรียบง่าย แต่กลับเป็นที่ชื่นชอบของคนไทยมาอย่างยาวนาน นั่นคือ "กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา" เมนูที่ฟังชื่อแล้วอาจจะดูธรรมดา แต่เมื่อได้ลิ้มลองแล้วจะรู้ว่าความอร่อยที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องซับซ้อนเสมอไป
วันนี้ทีมงานจึงขอนำเสนอสูตรสุดพิเศษของกะหล่ำปลีทอดน้ำปลาแบบดั้งเดิมแท้ ที่ใช้เพียงกุ้งแห้งเป็นโปรตีนเดียว ไม่มีไข่ ไม่มีเนื้อสัตว์อื่น ตามแบบที่บรรพบุรุษไทยเราได้ถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมเคล็ดลับการทำที่จะช่วยให้เมนูนี้อร่อยเหมือนซื้อจากร้านอาหารชื่อดังทอดน้ำปลาแบบดั้งเดิม ที่ทำให้คุณได้ลิ้มรสชาติต้นตำรับแท้ๆ ที่ถูกสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมเคล็ดลับการทำที่จะช่วยให้เมนูนี้อร่อยเหมือนซื้อจากร้านอาหารชื่อดัง
กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา หรือ กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา อะไรถูกต้องกันแน่?
หลายคนมักจะสงสัยว่าเมนูนี้ควรเรียกว่า "กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา" หรือ "กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา" กันแน่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองคำนี้สามารถใช้ได้ถูกต้องเหมือนกัน แต่จะมีความหมายที่แตกต่างกันเล็กน้อย
คำว่า "ทอด" ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการทอดในน้ำมันมาก แต่หมายถึงการใช้ความร้อนสูงในการปรุงอาหารด้วยน้ำมันเล็กน้อย ซึ่งเป็นวิธีการทำอาหารแบบดั้งเดิมของไทย ส่วนคำว่า "ผัด" นั้นเป็นวิธีการปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนสูงพร้อมกับการกวนผสมอย่างรวดเร็ว
ในหนังสือตำราอาหารไทยโบราณและเอกสารทางวิชาการ มักจะพบการใช้คำว่า "กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา" มากกว่า เนื่องจากเป็นคำที่ใช้มาแต่ดั้งเดิม ในขณะที่คำว่า "ผัด" เป็นคำที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคำนี้ล้วนหมายถึงเมนูเดียวกัน คือการนำกะหล่ำปลีมาปรุงรสด้วยน้ำปลาและเครื่องปรุงอื่นๆ ด้วยไฟแรงจนสุก ดังนั้นไม่ว่าจะเรียกแบบไหนก็ถือว่าถูกต้องทั้งคู่
ประวัติและที่มาของกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา
กะหล่ำปลีทอดน้ำปลาเป็นเมนูที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สืบย้อนไปได้ถึงสมัยอยุธยาตอนปลาย เมื่อชาวจีนได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทยและได้นำเทคนิคการทำอาหารของตนมาปรับใช้กับวัตถุดิบท้องถิ่น
ในสมัยนั้น กะหล่ำปลีเป็นผักที่หาได้ง่ายและราคาไม่แพง เป็นผักที่ชาวบ้านทั่วไปสามารถปลูกได้ในสวนหลังบ้าน ส่วนน้ำปลาก็เป็นเครื่องปรุงรสหลักของคนไทยที่มีมาตั้งแต่โบราณกาล การผสมผสานระหว่างผักสด กับรสชาติเค็มหวานของน้ำปลา จึงกลายเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
ตามตำนานที่สืบทอดกันมา เมนูนี้ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงโดยแม่ครัวในวังหลวง ซึ่งได้นำเทคนิคการปรุงอาหารจีนมาผสมผสานกับรสชาติไทย จนกลายเป็นเมนูที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ในสมัยรัชกาลที่ 5 เมนูนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในหมู่ข้าราชการและชนชั้นกลาง เนื่องจากเป็นเมนูที่ทำได้ง่าย ราคาถูก และมีรสชาติที่อร่อย เหมาะสำหรับการรับประทานในชีวิตประจำวัน
ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวัตถุดิบหายาก เมนูนี้ได้กลายเป็นอาหารยามขาดแคลนที่สำคัญ เนื่องจากใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายและราคาไม่แพง แต่ให้คุณค่าทางโภชนาการที่ดี
กะหล่ำปลีทอดน้ำปลาไม่เพียงแต่อร่อยเท่านั้น แต่ยังให้คุณค่าทางโภชนาการที่ดีมาก กะหล่ำปลีอุดมไปด้วยวิตามิน C, K และ U ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร และช่วยในการแข็งตัวของเลือด
นอกจากนี้ กะหล่ำปลียังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความแก่ และมีไฟเบอร์สูงที่ช่วยในการขับถ่าย กุ้งแห้งให้โปรตีนและแร่ธาตุ โดยเฉพาะแคลเซียมที่จำเป็นต่อกระดูกและฟัน ทำให้เมนูนี้ครบถ้วนทางโภชนาการแบบธรรมชาติ
สูตรอาหารและวิธีทำกะหล่ำปลีทอดน้ำปลาแบบดั้งเดิม
รายการวัตถุดิบ | ปริมาณต่อจาน | ราคาต่อหน่วย | ต้นทุนเฉลี่ย |
กะหล่ำปลี | 200 กรัม | 25 บาท/หัว (600 กรัม) | 8 บาท |
น้ำปลาแท้ | 1 ช้อนโต๊ะ | 35 บาท/ขวด (750 มล.) | 0.5 บาท |
น้ำมันพืช | 3 ช้อนโต๊ะ | 55 บาท/ลิตร | 1 บาท |
กระเทียม/น้ำตาล | รวมเล็กน้อย | - | 0.5 บาท |
รวมต้นทุนต่อจาน | - | - | 10 บาท |
ค่าแก๊ส/ไฟฟ้า = 2 บาท | รวมต้นทุนวัตถุดิบ = 17 บาท
การคำนวณราคาขาย
หากคิดกำไร 150% ราคาขายจะอยู่ที่ประมาณ 42 บาทต่อจาน แต่ในความเป็นจริง ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเช่าพื้นที่, ค่าแรงงาน, ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์, ค่าไฟฟ้า, น้ำประปา, ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ดังนั้น ราคาขายที่เหมาสมสำหรับสูตรดั้งเดิมอยู่ในช่วง 50-80 บาทต่อจาน ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยเป็นเมนูที่มีต้นทุนต่ำและกำไรดี
วิธีทำขั้นตอนโดยละเอียด
ขั้นตอนที่ 1: เตรียมวัตถุดิบ
เริ่มต้นด้วยการเตรียมกะหล่ำปลีให้พร้อม ล้างกะหล่ำปลีให้สะอาด จากนั้นหั่นเป็นชิ้นพอคำ ไม่ควรหั่นให้เล็กเกินไป เพราะจะทำให้กะหล่ำปลีเละเมื่อทอด ความหนาที่เหมาะสมคือประมาณ 1 เซนติเมตร
กุ้งแห้งแช่ในน้ำอุ่นประมาณ 15-20 นาที จนนิ่ม จากนั้นสับให้ละเอียดพอสมควร กุ้งแห้งจะช่วยให้เมนูนี้มีรสชาติที่เข้มข้นและหอมเฉพาะตัว ตามแบบดั้งเดิมที่แท้จริง
กระเทียมและหอมแดงสับให้ละเอียดพอสมควร ไม่ควรสับให้ละเอียดเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความขมเมื่อทอดด้วยไฟแรง
ขั้นตอนที่ 2: ปรุงเครื่องปรุงรส
ในชามผสม ใส่น้ำปลา น้ำตาลปีบ และพริกแห้งป่นลงไป คนให้เข้ากัน ลิ้มรสชาติดู ควรได้รสเค็มหวานที่สมดุล ไม่เค็มหรือหวานจัดเกินไป
สูตรดั้งเดิมจะเน้นรสชาติของกุ้งแห้งและน้ำปลาเป็นหลัก ไม่ซับซ้อนด้วยโปรตีนอื่น ทำให้ได้รสชาติที่บริสุทธิ์และเป็นเอกลักษณ์
ขั้นตอนที่ 3: เริ่มต้นทอด
ตั้งกระทะใหญ่บนไฟแรง ใส่น้ำมันลงไป เมื่อน้ำมันร้อนดีแล้ว ใส่กระเทียมและหอมแดงสับลงไปผัดจนหอม ระวังอย่าให้ไหม้ เพราะจะทำให้รสชาติขม
ใส่กุ้งแห้งที่สับแล้วลงไปผัดให้หอม ประมาณ 1 นาที กุ้งแห้งจะให้กลิ่นหอมเฉพาะตัวและรสชาติที่เข้มข้น
ขั้นตอนที่ 4: ใส่กะหล่ำปลี
ใส่กะหล่ำปลีลงในกระทะ ผัดด้วยไฟแรงอย่างรวดเร็ว ใช้ตะหลิวกวนให้ทั่วทุกชิ้น เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะต้องทำให้กะหล่ำปลีสุกพอดี ไม่เกินไปจนเละ
กะหล่ำปลีจะเริ่มเหี่ยวลงและมีน้ำออกมาเล็กน้อย นี่คือสัญญาณที่ดี แสดงว่ากะหล่ำปลีกำลังสุกและจะดูดซับรสชาติของเครื่องปรุงได้ดี
ขั้นตอนที่ 5: ปรุงรสสุดท้าย
เทเครื่องปรุงรสที่เตรียมไว้ลงในกระทะ ผัดให้เข้ากัน ให้กะหล่ำปลีได้ดูดซับรสชาติ ประมาณ 2-3 นาที จนกะหล่ำปลีสุกดีและเข้ากัน
ลิ้มรสชาติดูอีกครั้ง ปรับรสให้เหมาะสม อาจจะเพิ่มน้ำปลาหากรสจืด หรือเพิ่มน้ำตาลหากเค็มเกินไป
เมื่อได้รสชาติที่ต้องการแล้ว ยกลงจากเตา เสิร์ฟทันทีขณะร้อน
เคล็ดลับความสำเร็จ
ไฟแรงคือกุณแจ - ต้องใช้ไฟแรงตลอดการทำอาหาร จะทำให้กะหล่ำปลีสุกเร็วและคงความกรอบ
อย่าใส่น้ำ - ไม่ควรใส่น้ำเพิ่ม เพราะกะหล่ำปลีจะมีน้ำออกมาเองตามธรรมชาติ
ผัดเร็วผัดไว - ใช้ตะหลิวกวนอย่างรวดเร็ว ไม่ให้อาหารติดกระทะ
เลือกกะหล่ำปลีที่ดี - เลือกกะหล่ํปลีที่ใสสดใหม่ ไม่เหี่ยวเฉา
ปรุงรสทีละน้อย - เพิ่มเครื่องปรุงทีละเล็กทีละน้อย ลิ้มรสบ่อยๆ

กะหล่ำปลีทอดน้ำปลาเป็นมากกว่าเพียงแค่เมนูอาหารธรรมดา เป็นเมนูที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาของคนไทยในการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยวิธีการทำที่เรียบง่าย แต่ให้รสชาติที่เข้มข้นและหอมหวน สูตรที่นำเสนอในวันนี้เป็นสูตรต้นตำรับที่ผ่านการทดสอบและปรับปรุงมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะทำรับประทานเองหรือนำไปขาย ก็สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ลิ้มลองได้อย่างแน่นอน
ที่สำคัญคือ เมนูนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการทำอาหารที่คำนึงถึงทั้งรสชาติ คุณค่าทางโภชนาการ และความคุ้มค่าในเชิงเศรษฐกิจ ทำให้เหมาะสำหรับทุกครัวเรือนไทยและผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็ก การทำกะหล่ำปลีทอดน้ำปลาที่อร่อยจริงๆ ต้องอาศัยความอดทน ความละเอียดในการเตรียมวัตถุดิบ และที่สำคัญที่สุดคือ ความรักในการปรุงอาหาร เพราะอาหารที่ทำด้วยใจ จะมีรสชาติที่แตกต่างจากอาหารที่ทำแบบเร่งรีบเสมอ
สำหรับใครที่สนใจจะลองทำตามสูตรนี้ แนะนำให้เริ่มต้นด้วยการฝึกฝนการใช้ไฟให้เหมาะสม และการลิ้มรสอาหารบ่อยๆ เพื่อปรับรสชาติให้ถูกปาก เมื่อชำนาญแล้ว การทำกะหล่ำปลีทอดน้ำปลาจะกลายเป็นเรื่องง่ายและสนุก ทำให้ทุกมื้ออาหารของครอบครัวมีความสุขและอิ่มใจ
#ทีมงานสรุป #กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา #สูตรอาหาร #กับข้าวทำง่าย #อาหารไทย #อาหารจานด่วน #ThaiStreetFood #เมนูขายดี


Comments