สรุปความแตกต่างของคำว่า ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ กรรโชกทรัพย์ ฉ้อโกงทรัพย์ ตามกฎหมายไทย
- SARUP Librarian
- Jul 15
- 1 min read
หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า "ลักทรัพย์", "วิ่งราว", "ชิงทรัพย์", "ปล้นทรัพย์" และ "ยักยอกทรัพย์" จากข่าวหรือสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ แต่รู้หรือไม่ว่าแต่ละคำมีความหมายและลักษณะความผิดตามกฎหมายที่แตกต่างกันไป ในบทความนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจคำเหล่านี้ภายใต้กฎหมายอาญาไทย พร้อมยกตัวอย่างง่ายๆ ให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
สามารถอ่านข้อมูลเต็มได้ที่ Epsilon Legal >> https://www.aktivist.co.th/post/ความแตกต่างของคำว่า-ลักทรัพย์-วิ่งราวทรพย-ชิงทรัพย์-ปล้นทรัพย์-กรรโชกทรัพย์-ฉ้อโกงทรัพย์-และยักยอก
ประเภท | ความหมาย | โทษ | ใช้กำลัง / ขู่เข็ญ | ผู้กระทำ |
ลักทรัพย์ | แอบขโมย | จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ | ไม่ใช้ | คนเดียว |
วิ่งราวทรัพย์ | ฉกต่อหน้าต่อตา | จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ | ไม่ใช้ | คนเดียว |
ชิงทรัพย์ | ขู่เข็ญ/ใช้กำลัง | จำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 200,000 บาท | ใช้ | คนเดียว |
ปล้นทรัพย์ | ชิงทรัพย์แบบหมู่ | จำคุกตั้งแต่ 10 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 300,000 บาท | ใช้ | 2 คนขึ้นไป |
ยักยอกทรัพย์ | เอาของที่มีอยู่แล้วไปใช้โดยทุจริต | จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ | ไม่ใช้ | คนเดียว |
กรรโชกทรัพย์ | ข่มขู่ให้ผู้อื่นมอบของให้ | จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ | ใช้กำลัง ใช้วาจา | ตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป |
ฉ้อโกงทรัพย์ | ตั้งใจหลอกให้ผู้อื่นมอบของให้ | จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำกับประชาชนจำนวนมาก อาจมีบทลงโทษสูงขึ้นตามมาตรา 343 | ไม่ใช้ | ตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป |
1. ลักทรัพย์ (มาตรา 334)
หมายถึง การเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยทุจริต โดยเจ้าของไม่ได้ยินยอม และไม่มีการใช้กำลังหรือขู่เข็ญ
ตัวอย่าง:ชายคนหนึ่งแอบย่องเข้าไปในบ้านของคนอื่นตอนกลางคืน แล้วขโมยโทรศัพท์มือถือไปโดยที่เจ้าของบ้านไม่รู้ตัว นี่คือลักทรัพย์

2. วิ่งราวทรัพย์ (มาตรา 336)
ความหมาย: การลักทรัพย์ที่กระทำโดยฉกฉวยเอาทรัพย์ไปต่อหน้าเจ้าของหรือผู้ครอบครองโดยไม่ใช้กำลังหรือขู่เข็ญ
ตัวอย่าง:หญิงสาวคนหนึ่งเดินเล่นอยู่ริมถนน แล้วมีคนขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาแล้วคว้ากระเป๋าสะพายของเธอไปต่อหน้าต่อตา นี่คือการวิ่งราวทรัพย์

3. ชิงทรัพย์ (มาตรา 339)
ความหมาย: การลักทรัพย์ที่มีการใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังในขณะกระทำความผิด
ตัวอย่าง:ชายคนหนึ่งขู่หญิงสาวด้วยมีดในซอยเปลี่ยว เพื่อให้เธอมอบกระเป๋าเงินให้ ถ้าหญิงสาวไม่ยอม เขาจะทำร้ายร่างกาย นี่คือการชิงทรัพย์
4. ปล้นทรัพย์ (มาตรา 340)
ความหมาย: การชิงทรัพย์ที่มีผู้กระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป และมีการใช้กำลังหรือข่มขู่ร่วมกัน
ตัวอย่าง:กลุ่มวัยรุ่น 3 คน วางแผนบุกเข้าร้านสะดวกซื้อตอนกลางคืน ใช้มีดขู่พนักงานให้เปิดลิ้นชักเก็บเงิน แล้วพากันหลบหนีไป นี่คือการปล้นทรัพย์
5. ยักยอกทรัพย์ (มาตรา 352)
ความหมาย: การเอาทรัพย์ที่ตนมีสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายไปเป็นของตนเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต
ตัวอย่าง:นาย ก ทำงานเป็นแคชเชียร์ร้านค้า และเก็บเงินจากลูกค้าได้ แต่ไม่ได้นำส่งให้กับร้าน กลับเอาไปใช้ส่วนตัว แบบนี้ถือว่าเป็นการยักยอกทรัพย์
6.ฉ้อโกงทรัพย์ (มาตรา 341)
ความหมาย: การหลอกลวงผู้อื่นด้วยข้อความเท็จ หรือปกปิดความจริงที่ควรบอก เพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อและยินยอมมอบทรัพย์ให้ไปโดยสมัครใจ แต่มีเจตนาทุจริตตั้งแต่แรก
ตัวอย่าง:นาย ข อ้างกับคุณ ว่าเขาจะนำเงินไปลงทุนธุรกิจนำเข้าสินค้าต่างประเทศ และสัญญาว่าจะได้ผลตอบแทนสูงมากในเวลาอันสั้น ทั้งที่จริงแล้วไม่มีธุรกิจนั้นอยู่จริง และเขาตั้งใจจะนำเงินไปใช้ส่วนตัวทั้งหมด แบบนี้ถือว่าเป็น การฉ้อโกงทรัพย์

7. กรรโชกทรัพย์ (มาตรา 337)
ความหมาย: การข่มขู่หรือขู่เข็ญให้ผู้อื่นเกิดความกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน จนยอมมอบทรัพย์ให้เอง โดยไม่ได้ใช้กำลังในขณะนั้น แต่เกิดจากความหวาดกลัว
ตัวอย่าง:
นาย ค รู้ว่าคุณ ง มีภาพลับส่วนตัว และขู่จะเผยแพร่ภาพนั้นลงโซเชียล ถ้าคุณ ง ไม่ยอมโอนเงินให้ภายใน 24 ชั่วโมง การกระทำนี้เป็นการ กรรโชกทรัพย์ เพราะใช้การขู่เพื่อให้ได้ทรัพย์ โดยไม่ได้ทำร้ายร่างกาย



Comments