วิธีการเตรียมตัวไปเที่ยวสงกรานต์
- SARUP Overseer
- Apr 1, 2019
- 1 min read
Updated: Apr 25
จากรากเหง้าของประเพณีสู่สีสันแห่งสายน้ำ: เมื่อสงกรานต์เป็นมากกว่าการเล่นน้ำ
สงกรานต์…คำเพียงคำเดียวที่สามารถปลุกชีวิตชีวาให้กับสังคมไทยได้ทุกปี เมื่อถึงเดือนเมษายน ทั่วประเทศจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่หลั่งไหลมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุข รอยยิ้ม และการเริ่มต้นใหม่ ทั้งในเมืองหลวงและหัวเมืองใหญ่ โดยเฉพาะในปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงที่การท่องเที่ยวไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากภาวะเศรษฐกิจที่นิ่งชะงักในช่วงปลายปี 2018

สงกรานต์: มากกว่าการเล่นน้ำ คือรากเหง้าทางวัฒนธรรม
“สงกรานต์” มาจากภาษาสันสกฤตว่า “สังกรานตะ” แปลว่า “การเคลื่อนย้าย” หมายถึงการย้ายของดวงอาทิตย์จากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทยตามจันทรคติ ประเพณีนี้มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ยุคสุโขทัย ก่อนจะได้รับการสืบทอดและกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตชาวไทยทุกภูมิภาค
ในอดีต เทศกาลสงกรานต์เน้นที่ “พิธีกรรมทางศาสนา” เช่น การทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระ และรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เพื่อแสดงความเคารพและขอพรให้ชีวิตราบรื่นในปีใหม่ มีการจัดงานอย่างเป็นระเบียบและศักดิ์สิทธิ์ ความหมายของ “น้ำ” จึงเป็นการชำระล้างสิ่งไม่ดี และนำมาซึ่งความเย็นใจ
ปี 2019: เมื่อสงกรานต์ผสานวิถีเก่าเข้ากับความสนุกยุคใหม่
แม้กาลเวลาจะผ่านไป การเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยีทำให้ “สงกรานต์” ในปี 2019 กลายเป็นมากกว่าประเพณี แต่กลายเป็น “เทศกาลระดับโลก” ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศเฝ้ารอ หลายพื้นที่มีการจัดงานในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งแบบดั้งเดิมและแนวสมัยใหม่ โดยยังคงไว้ซึ่ง “หัวใจของประเพณี” ที่ไม่เปลี่ยนแปลง
กิจกรรมตามประเพณีดั้งเดิมที่ยังคงอยู่
ทำบุญตักบาตรตอนเช้า เป็นวิถีเริ่มต้นวันใหม่ที่ยังคงได้รับความนิยมทั้งในเมืองและต่างจังหวัด
สรงน้ำพระ ตามวัดต่าง ๆ เพื่อเสริมสิริมงคล
รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เพื่อเป็นสิริมงคลของตนเอง
ประเพณีขบวนแห่พระ ในเชียงใหม่ พิษณุโลก และสุโขทัย ยังจัดได้อย่างยิ่งใหญ่เช่นเคย
อุปกรณ์สำคัญในการเล่นน้ำสงกรานต์
ในยุคที่การเล่นน้ำกลายเป็นไฮไลต์ของเทศกาล ผู้ร่วมงานควรเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมอย่างมีวินัยและปลอดภัย ได้แก่
ปืนฉีดน้ำ: ในปี 2019 มีการออกแบบใหม่มากมาย ทั้งขนาดใหญ่และพกพาสะดวก
ถังน้ำขนาดพกพา: นิยมในกลุ่มวัยรุ่น เน้นความสะดวกในการเติมน้ำ
แว่นตากันน้ำ: ช่วยป้องกันดวงตาจากน้ำไม่สะอาด
ถุงกันน้ำ: สำหรับใส่โทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ และของสำคัญ
เสื้อผ้าแห้งเร็ว/เสื้อฮาวาย: กลายเป็นแฟชั่นประจำเทศกาล
รองเท้าแตะพื้นยาง: ป้องกันการลื่นและบาดเจ็บจากเศษแก้วหรือวัตถุแหลม
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ที่อาจเป็นอันตราย เช่น ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง และไม่ควรใช้น้ำแข็งหรือแป้ง ซึ่งหลายพื้นที่ได้ประกาศห้ามอย่างเป็นทางการแล้วในปีนี้
พิกัดฮิตเล่นสงกรานต์
1. ถนนข้าวสาร – กรุงเทพฯ
แลนด์มาร์กอันดับต้น ๆ ที่ไม่ควรพลาด เต็มไปด้วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ระบบรักษาความปลอดภัยเข้มข้น มีจุดบริการน้ำฟรีและเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดแนวถนน
2. ถนนสีลม – กรุงเทพฯ
เน้นกลุ่มวัยทำงานและคนเมือง ระบบเสียง แสง สี พร้อมคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง สร้างประสบการณ์ “สงกรานต์กลางมหานคร” ได้อย่างสมบูรณ์
3. ประเพณีปี๋ใหม่เมือง – เชียงใหม่
เมืองแห่งสงกรานต์แบบดั้งเดิม การแห่พระพุทธรูป สรงน้ำ สวมชุดพื้นเมือง และตลาดย้อนยุค ทำให้กลายเป็นจุดหมายยอดนิยม บริเวณคูเมืองเชียงใหม่
4. สงกรานต์กรุงเก่า – พระนครศรีอยุธยา
การรำลึกอดีตด้วยกิจกรรมแบบไทยโบราณ และการเล่นน้ำกับช้างสุดน่ารัก ทำให้คนทุกวัยร่วมสนุกได้อย่างมีวัฒนธรรม
5. สงกรานต์โนแอลกอฮอล์ – ขอนแก่น (ถนนข้าวเหนียว)
พื้นที่ที่ผลักดันสงกรานต์ปลอดภัย โดยงดการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเน้นกิจกรรมครอบครัว กลายเป็นต้นแบบของการจัดงานอย่างสร้างสรรค์
ข้อแนะนำเพื่อความปลอดภัยในการเที่ยวสงกรานต์
วางแผนเส้นทางล่วงหน้า หลีกเลี่ยงจุดที่มีความแออัดสูง
ไม่ขับขี่ยานพาหนะขณะมึนเมา
พกบัตรประชาชนและเบอร์โทรฉุกเฉินติดตัว
หมั่นเช็กสภาพอากาศและจุดบริการสุขภาพใกล้เคียง
ระวังการล่วงละเมิดและให้ความเคารพต่อผู้อื่นในพื้นที่สาธารณะ
สงกรานต์คือการเริ่มต้นใหม่…ไม่ใช่แค่เล่นน้ำ
แม้การเล่นน้ำจะเป็นภาพจำของคนรุ่นใหม่ แต่สาระสำคัญของสงกรานต์ในปี 2019 ยังสะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันระหว่าง “อดีต – ปัจจุบัน – อนาคต” ได้อย่างชัดเจน เป็นช่วงเวลาที่ชาวไทยได้หวนระลึกถึงรากเหง้าแห่งวัฒนธรรม ความกตัญญู และการใช้เวลาแห่งปีใหม่เพื่อทบทวนตนเอง และไม่ว่าคุณจะเลือกเที่ยวสงกรานต์แบบเปียกโชกไปกับปืนฉีดน้ำ หรือแบบเรียบง่ายในวัดเล็กกลางชุมชน…สุดท้ายแล้ว “สงกรานต์” จะยังคงเป็นเทศกาลที่รวมผู้คนเข้าด้วยกันอย่างงดงาม เป็นบทพิสูจน์ว่า “สายน้ำ” แม้จะไหลผ่านเพียงชั่วคราว แต่สามารถเยียวยาหัวใจเราไปได้อีกทั้งปี
Comments