บุหรี่ไฟฟ้า (Vape) ปลอดภัยจริงหรือ?
- SARUP Reporter
- May 6, 2024
- 1 min read
Updated: Jun 19
บุหรี่ไฟฟ้า (Vape) ปลอดภัยจริงหรือ? วิเคราะห์ข้อเท็จจริงทางการแพทย์และผลกระทบต่อสุขภาพ
บุหรี่ไฟฟ้า (Vape) หรือที่มักเรียกในหมู่วัยรุ่นว่า “พอต” กลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและคนรุ่นใหม่ ด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัย กลิ่นที่หอม และการตลาดที่สื่อว่าปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจยังมีคำถามว่า “บุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยจริงหรือไม่?”

บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร?
บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ความร้อนจากแบตเตอรี่เพื่อทำให้น้ำยาที่มีนิโคติน สารแต่งกลิ่น และสารเคมีอื่น ๆ ระเหยออกมาในรูปแบบละอองไอ (aerosol) โดยไม่มีการเผาไหม้ จึงทำให้หลายคนเชื่อว่า บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน อย่างไรก็ตาม ละอองไอนี้ไม่ได้เป็นเพียง “ไอน้ำ” ธรรมดา เพราะประกอบไปด้วยอนุภาคขนาดเล็ก PM2.5 โลหะหนัก และสารประกอบที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้
บุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยจริงหรือ?
แม้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าอาจปล่อยสารพิษจากการเผาไหม้น้อยกว่าบุหรี่มวน แต่ก็ยังมี นิโคติน ซึ่งเป็นสารเสพติดหลักที่มีผลต่อสมอง โดยเฉพาะในวัยรุ่น รวมถึงสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจ และแม้แต่โรคมะเร็งในระยะยาว
ข้อดีของบุหรี่ไฟฟ้า (ตามที่ผู้สนับสนุนกล่าวอ้าง)
ไม่มีการเผาไหม้: ทำให้ไม่มีการปล่อยสารทาร์หรือคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นสารพิษหลักในบุหรี่มวน
ควบคุมปริมาณนิโคตินได้: ผู้ใช้สามารถเลือกระดับนิโคตินตามความต้องการ
มีกลิ่นหลากหลาย: ช่วยลดกลิ่นเหม็นของบุหรี่แบบเดิม และอาจลดแรงต้านจากคนรอบข้าง
อาจใช้เป็นเครื่องมือเลิกบุหรี่: งานวิจัยบางชิ้นเสนอว่าบุหรี่ไฟฟ้าอาจมีประสิทธิภาพในบางกรณี เช่นในผู้ที่ต้องการลดหรือเลิกบุหรี่มวน (Cancer Research UK, 2023)
ข้อมูลจากแหล่งทางการแพทย์:
นิโคติน ส่งผลต่อสมองที่กำลังพัฒนาในวัยรุ่น เพิ่มความเสี่ยงในการติดบุหรี่หรือสารเสพติดอื่นในอนาคต
โลหะหนักและสารพิษ เช่น นิกเกิล ตะกั่ว และดีบุก อาจปนเปื้อนจากขดลวดในบุหรี่ไฟฟ้า โดยเข้าสู่ปอดและระบบไหลเวียนเลือด
สารแต่งกลิ่น หลายชนิดที่ปลอดภัยในการรับประทาน อาจไม่ปลอดภัยเมื่อสูดดม
ข้อเท็จจริงด้านความปลอดภัย: “ปลอดภัยกว่า” ≠ “ปลอดภัย”
แม้จะมีบางแง่มุมที่ดูเหมือนบุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่จากข้อมูลทางการแพทย์และงานวิจัยล่าสุด ชี้ให้เห็นว่า บุหรี่ไฟฟ้ายังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในระยะยาว
ผลกระทบต่อสุขภาพจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า:
ระบบทางเดินหายใจและปอด
ละอองที่เกิดจากการระเหยของน้ำยาอิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วย PM2.5 ที่สามารถซึมลึกเข้าสู่ถุงลมปอด
เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคปอดอักเสบ หอบหืด และอาการไอเรื้อรัง
เกิดภาวะ “EVALI” (E-cigarette or Vaping product use-Associated Lung Injury) ซึ่งเป็นภาวะปอดอักเสบเฉียบพลันที่เคยทำให้ผู้ใช้งานหลายพันรายในสหรัฐฯ ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล (CDC, 2022)
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
นิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลให้หลอดเลือดหดตัว เพิ่มความดันโลหิต และอัตราการเต้นของหัวใจ
เพิ่มความเสี่ยงของภาวะหัวใจวายหรือโรคหัวใจเรื้อรังในระยะยาว
สมองและพัฒนาการในวัยรุ่น
วัยรุ่นที่ได้รับนิโคตินมีโอกาสเสพติดสูงกว่าผู้ใหญ่
นิโคตินอาจรบกวนกระบวนการพัฒนาของสมองในส่วนที่ควบคุมความจำ สมาธิ และการควบคุมพฤติกรรม
ผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์และครรภ์
มีหลักฐานว่าอาจกระทบต่อการพัฒนาของทารกในครรภ์ หากสตรีมีครรภ์ใช้บุหรี่ไฟฟ้า
ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญและองค์กรด้านสุขภาพ
รายงานจาก National Academies of Sciences, Engineering, and Medicine (2018) สรุปว่า แม้บุหรี่ไฟฟ้าอาจลดความเสี่ยงจากบางสารพิษที่มีในบุหรี่มวน แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงในหลายด้าน และยังไม่มีหลักฐานเพียงพอเกี่ยวกับผลกระทบระยะยาว
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาเตือนว่า การใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าในวัยรุ่นมีแนวโน้มเชื่อมโยงกับการเริ่มสูบบุหรี่มวนในอนาคต และไม่ควรถูกใช้โดยผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน
ด้าน | ข้อดี | ข้อเสีย |
สุขภาพ (เมื่อเทียบกับบุหรี่มวน) | - ไม่มีการเผาไหม้ จึงลดการเกิดสารพิษบางชนิดจากควัน | - ยังคงมีนิโคตินซึ่งเป็นสารเสพติด - มีสารเคมีที่อาจเป็นพิษ เช่น โลหะหนัก PM2.5 สารแต่งกลิ่น |
ช่วยเลิกบุหรี่ | - อาจช่วยลดหรือเลิกบุหรี่มวนได้หากใช้อย่างถูกวิธี | - อาจทำให้เสพติดนิโคตินในรูปแบบใหม่ - เสี่ยงกลับไปสูบบุหรี่มวนได้ |
การใช้งาน | - ใช้ง่าย พกพาสะดวก กลิ่นไม่ติดตัว | - อุปกรณ์อาจชำรุด มีความเสี่ยงจากแบตเตอรี่ระเบิด - ต้องเปลี่ยนหัวพอตหรือน้ำยาอย่างต่อเนื่อง |
ภาพลักษณ์/สังคม | - ดูทันสมัย เป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น | - อาจสร้างภาพจำผิดว่า “ไม่อันตราย” ทำให้เยาวชนเริ่มใช้มากขึ้น |
ผลกระทบระยะยาว | - ยังไม่มีข้อดีชัดเจน | - ยังไม่มีงานวิจัยระยะยาวเพียงพอ ยากต่อการประเมินผลเสียในอนาคต |
กฎหมายและข้อบังคับ | - ในบางประเทศมีการควบคุมเพื่อใช้ทางการแพทย์ | - ผิดกฎหมายในหลายประเทศ รวมถึงไทย เสี่ยงต่อการโดนปรับหรือดำเนินคดี |
คำถามว่า "บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายหรือไม่?" ยังคงเป็นประเด็นที่มีหลายมิติและต้องพิจารณาจากข้อมูลทั้งด้านการแพทย์ พฤติกรรมผู้ใช้ และบริบททางสังคม โดยเฉพาะเมื่อบุหรี่ไฟฟ้าถูกวางตำแหน่งให้เป็นทางเลือกหนึ่งแทนบุหรี่มวน และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่
ในแง่หนึ่ง บุหรี่ไฟฟ้าอาจมีความเสี่ยงที่ น้อยกว่าบุหรี่มวน ในบางด้าน เช่น การไม่มีการเผาไหม้ ทำให้สารพิษจากควันบุหรี่แบบดั้งเดิมลดลง อย่างไรก็ตาม การ "ไม่มีควัน" ไม่ได้หมายความว่า "ไม่มีอันตราย" เพราะละอองไอจากบุหรี่ไฟฟ้ายังมีนิโคติน สารแต่งกลิ่น และโลหะหนัก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบหายใจ หัวใจ และสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ยังมีพัฒนาการทางสมองไม่สมบูรณ์ เช่น วัยรุ่น
นอกจากนี้ แม้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะถูกนำเสนอว่าเป็นเครื่องมือช่วยเลิกบุหรี่ แต่ก็ยังขาดงานวิจัยระยะยาวที่ชัดเจน และบางกรณีกลับกลายเป็นช่องทางใหม่ที่ทำให้ผู้ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อนเริ่มเสพติดนิโคตินโดยไม่รู้ตัว
ดังนั้น... บุหรี่ไฟฟ้าอาจมีความเสี่ยงน้อยกว่าบุหรี่มวนในบางด้าน แต่ไม่ได้หมายความว่า "ปลอดภัย" โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่เคยมีพฤติกรรมสูบบุหรี่มาก่อน เพราะการเริ่มใช้บุหรี่ไฟฟ้าอาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเสพติด และอาจนำไปสู่การใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบในรูปแบบอื่นในอนาคต
สุดท้ายแล้ว ความปลอดภัยของบุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นเรื่องที่ต้องการงานวิจัยเพิ่มเติม โดยเฉพาะในระยะยาว และควรพิจารณาบนพื้นฐานของ ความรู้ ความเข้าใจ และความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม การเลือกที่จะใช้หรือไม่ใช้บุหรี่ไฟฟ้า จึงควรตั้งอยู่บนข้อมูลที่รอบด้าน และตัดสินใจโดยพิจารณาถึงผลกระทบทั้งต่อร่างกายและคุณภาพชีวิตในอนาคต
ทางเลือกที่ดีที่สุด อาจไม่ใช่แค่ “ทางเลือกที่เสี่ยงน้อยลง” แต่คือการไม่เลือกสิ่งที่เสี่ยงเลยตั้งแต่ต้น


Comments