top of page

“น้องเอวา” เสือพันธุ์อะไร? ทำไมถึงหายาก?

  • Writer: Shinnasin Kumapanthsinthumat
    Shinnasin Kumapanthsinthumat
  • Dec 11, 2024
  • 1 min read

Updated: Mar 18



น้องเอวา

ช่วงนี้แจ้งเกิดกันอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว สำหรับอินฟลูสัตว์โลกแสนน่ารัก โดยวันนี้ก็มาถึงคิวของน้องเอวา เสือโคร่งจากสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มาดูกันเกี่ยวกับสายพันธุ์ของเสือโคร่ง และจุดเด่นของน้องเอวานั่นก็คือขนสีทองที่หาพบได้ยากในธรรมชาติ


น้องเอวาเสือโคร่งสายพันธุ์พิเศษที่มีขนสีทองหายาก มีจุดเด่นไม่เหมือนใคร เพราะเธอมี ขนสีทองอ่อน แทนที่จะเป็นสีส้มเข้มและลายสีดำแบบทั่วไป ลักษณะขนที่โดดเด่นนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาในเสือโคร่ง และเกิดจาก การกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม ที่เรียกว่า "Golden Tabby Mutation" ซึ่งพบได้ยากมาก โดยเฉพาะในธรรมชาติ ทำให้เธอกลายเป็นขวัญใจของผู้คนที่มาเยี่ยมชม เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี


ทำไมขนของน้องเอวาจึงเป็นสีทอง?

ขนสีทองของน้องเอวาเกิดจาก การกลายพันธุ์ของยีนที่ควบคุมเม็ดสีในขน การกลายพันธุ์นี้ทำให้ปริมาณของเมลานินในขนลดลง ซึ่งเมลานินเป็นสารที่ทำให้ขนของเสือมีสีเข้ม เช่น ลายเสือสีดำและพื้นขนสีส้ม สำหรับเสือที่เกิดการกลายพันธุ์ เมลานินจะลดน้อยลง ส่งผลให้พื้นขนที่ควรเป็นสีส้มเข้มดูอ่อนลงจนกลายเป็นสีเหลืองทองอมครีม, ลายเสือที่ควรเป็นสีดำเข้มกลับกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือสีซีด

นอกจากนี้ การที่ขนของเสือเปลี่ยนสีไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพหรือพฤติกรรมของเสือโดยตรง แต่ทำให้มันมีลักษณะพิเศษที่คนจดจำได้ง่าย


น้องเอวาเป็นเสือโคร่งสายพันธุ์อะไร?

น้องเอวาเป็น เสือโคร่งเบงกอล Bengal tiger (ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Panthera tigris tigris) ซึ่งเป็นหนึ่งในสายพันธุ์เสือโคร่งที่พบได้มากที่สุดในโลก แต่ลักษณะขนสีทองเกิดจาก พันธุกรรมแบบยีนด้อย (Recessive Gene) นั่นหมายความว่า ยีนที่ทำให้เกิดขนสีทองต้องถูกถ่ายทอดมาจาก ทั้งพ่อและแม่ ของน้อง แม้ว่าพ่อแม่ของน้องเอวาอาจดูเหมือนเสือโคร่งธรรมดาที่มีขนสีส้มและลายดำ แต่ถ้าพวกเขามียีนด้อยนี้แฝงอยู่ทั้งคู่ ลูกเสือก็มีโอกาสเกิดมาเป็นขนสีทองแบบน้องเอวาได้

น้องเสื้อเอวา

ตัวอย่างโอกาสในการเกิดลักษณะนี้

  • ถ้าพ่อและแม่เป็นพาหะของยีนด้อย (ลักษณะขนปกติ แต่แฝงยีนด้อยไว้) ลูกเสือจะมีโอกาสเกิดขนสีทองได้ประมาณ 25%

  • ถ้าพ่อหรือแม่ตัวใดตัวหนึ่งมีขนสีทองและอีกตัวเป็นพาหะ โอกาสเพิ่มขึ้นเป็น 50%

  • ถ้าพ่อและแม่มีขนสีทองทั้งคู่ โอกาสที่ลูกจะเป็นขนสีทองจะสูงถึง 100%



สายพันธุ์ของเสือโคร่ง


เสือโคร่งไซบีเรีย เป็นชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด โดยตัวผู้ที่โตเต็มที่อาจยาวได้ถึง 3 เมตร หนักได้กว่า 300 กิโลกรัม 

สามารถพบได้ที่ ไซบีเรีย, บางส่วนของจีนที่ติดกับรัสเซีย และบางส่วนของเกาหลีเหนือ  

สถานะ ปัจจุบันคาดว่ามีเหลืออยู่ในธรรมชาติราว 500–600 ตัว


เสือโคร่งเบงกอล เป็นชนิดที่ขนาดใหญ่รองลงมา เป็นสายพันธุ์ที่มีปริมาณประชากรเหลือมากที่สุด และนิยมเลี้ยงกันตามสวนสัตว์เนื่องจากมีนิสัยดุร้ายน้อยที่สุด 

สามารถพบได้ที่ เอเชียใต้และบางส่วนของพม่า 

สถานะ มีเหลืออยู่ประมาณ 2,000 ตัว ในธรรมชาติ


เสือโคร่งอินโดจีน เป็นชนิดที่แยกออกมาจากชนิดเบงกอล มีลักษณะใกล้เคียงกัน โดยมีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย

สามารถพบได้ที่ บางส่วนของพม่าที่ติดต่อกับไทย, สูญพันธุ์ไปแล้วจากตอนใต้ของจีน และภูมิภาคอินโดจีน

สถานะ คาดว่ามีเหลือประมาณ 280–330 ตัวในธรรมชาติ


เสือโคร่งสุมาตรา เป็นชนิดที่มีขนาดเล็กที่สุดที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์อยู่

สามารถพบได้ที่ เฉพาะบนเกาะสุมาตราที่เดียวเท่านั้น

สถานะ มีเหลือประมาณ 350 ตัวในธรรมชาติ


เสือโคร่งจีนใต้ เป็นชนิดที่มีลวดลายน้อยและมีสีสันอ่อนที่สุด

สามารถพบได้ที่ ในประเทศจีนทางตอนใต้

สถานะ มีเหลือประมาณ 30 ตัวในธรรมชาติ จัดเป็นสายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์มากที่สุด


เสือโคร่งแคสเปียน เป็นชนิดที่มีขนาดใหญ่ มีลักษณะใกล้เคียงกับชนิดไซบีเรีย

สามารถพบได้ที่ ตั้งแต่ที่ราบสูงแมนจูเรีย, เอเชียกลาง ไปจนถึงตะวันออกกลาง และอาจมีประชากรบางส่วนในซูดานหรืออียิปต์ด้วย

สถานะ ปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว


เสือโคร่งชวา เป็นหนึ่งในสามชนิดที่พบได้ในอินโดนีเซีย 

สามารถพบได้ที่ เฉพาะบนเกาะชวาเท่านั้น

สถานะ ปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว


เสือโคร่งบาหลี เคยเป็นชนิดที่มีขนาดเล็กที่สุด

สามารถพบได้ที่ พบได้เฉพาะบนเกาะบาหลีเท่านั้น 

สถานะ ปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว


เสือโคร่งมลายู เป็นชนิดที่ถูกแยกออกมาจากชนิดอินโดจีน โดยเฉลี่ยแล้วมีรูปร่างที่เล็กกว่าเล็กน้อย

สามารถพบได้ที่ เฉพาะบนคาบสมุทรมลายู 

สถานะ คาดว่ามีเหลืออยู่ในธรรมชาติราว 150–200 ตัว 


Comments


ติดต่อเรา
253 อาคาร 253 อโศก ชั้น 29
แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110
ติดต่อโฆษณา 084-691-6161

สรุปเรื่องเด่น

นโยบายความเป็นส่วนตัว

สรุปไปเรื่อย

นโยบายคุกกี้

สรุปไลฟ์

สรุปเกมมิ่ง

  • Instagram
  • Facebook
  • Twitter

©2022 by Sarup.online Proudly created by Aktivist Group

bottom of page