ต้นกำเนิดชื่อวันในภาษาอังกฤษที่ใช้ปัจจุบัน - มรดกแห่งไวกิ้ง ดวงดาว และตำนานโบราณ
- SARUP Librarian
- Mar 1, 2022
- 1 min read
Updated: Apr 29
ชื่อวันในภาษาอังกฤษที่เราใช้กันอย่างคุ้นเคย ตั้งแต่ Monday ถึง Sunday แท้จริงแล้วมีต้นกำเนิดที่น่าทึ่งและเปี่ยมเสน่ห์เกินกว่าที่หลายคนคาดคิด โดยเฉพาะชื่อของวันส่วนใหญ่ในสัปดาห์นั้นได้รับอิทธิพลโดยตรงจากวัฒนธรรมของชาวไวกิ้งและชนเผ่าเจอร์แมนิกทางยุโรปเหนือ ซึ่งผสานเข้ากับแนวคิดของโรมันและจักรวาลวิทยาโบราณ จนก่อรูปเป็นภาษาที่เราพูดกันจนถึงปัจจุบัน
เทพเจ้าผู้เรืองอำนาจจากมหากาพย์นอร์ส ดวงดาวที่ส่องประกายเหนือหัว และตำนานแห่งความเชื่อได้หลอมรวมกันเป็นชื่อวันในแต่ละวัน สะท้อนถึงจิตวิญญาณและค่านิยมของมนุษย์โบราณได้อย่างลึกซึ้ง
ในบทความนี้ เราจะพาคุณย้อนเวลาไปค้นหาความหมายเบื้องหลังแต่ละวัน ตั้งแต่วันจันทร์แห่งดวงจันทร์อันเยือกเย็น จนถึงวันอาทิตย์แห่งสุริยันเจิดจ้า พร้อมเรื่องเล่าและตำนานที่แฝงไว้ด้วยมนต์ขลัง
Monday – วันแห่งดวงจันทร์ (Moon's Day)
Monday มีรากมาจากภาษาอังกฤษเก่า "Monandæg" หมายถึง "วันของดวงจันทร์" (Moon) ความคิดในการกำหนดวันหนึ่งเพื่ออุทิศให้กับดวงจันทร์นั้นพบได้ในหลายอารยธรรม เช่น "dies Lunae" ของโรมัน หรือ "lundi" ของฝรั่งเศส ในตำนานนอร์ส ดวงจันทร์ถูกควบคุมโดยเทพน้อยนามว่า Máni ซึ่งขับรถม้านำดวงจันทร์เคลื่อนที่ข้ามฟากฟ้าในยามค่ำคืน ขณะเดียวกันก็ตกเป็นเป้าหมายของหมาป่ายักษ์ Sköll ที่ไล่ล่าอย่างไม่ลดละ เรื่องเล่านี้สะท้อนถึงความกลัวของมนุษย์โบราณต่อความไม่แน่นอนและภัยพิบัติจากฟากฟ้า Monday จึงไม่ได้เป็นเพียงวันเริ่มต้นสัปดาห์ แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจถึงพลังแห่งความลึกลับและความสงบเยือกเย็นของรัตติกาลที่มีมาแต่โบราณ
Tuesday – วันของเทพแห่งสงคราม (Tiw's Day)
Tuesday มีที่มาจาก Tiw หรือ Týr เทพเจ้าแห่งสงครามและความยุติธรรมในตำนานนอร์ส ชื่อในภาษาอังกฤษเก่าเรียกว่า "Tiwesdæg" เทียบได้กับ "dies Martis" ในภาษาละตินซึ่งอุทิศให้กับดาวอังคาร (Mars) Týr เป็นเทพเจ้าผู้กล้าหาญ ผู้ยอมเสียสละมือข้างหนึ่งเพื่อหลอกล่อและผนึกหมาป่ายักษ์ Fenrir เรื่องราวการสละอวัยวะเพื่อปกป้องโลกสะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมเรื่องเกียรติและการเสียสละในสังคมโบราณ Tuesday จึงเป็นวันที่เปี่ยมด้วยพลังแห่งการต่อสู้ ความกล้าเผชิญหน้า และความเสียสละเพื่อส่วนรวม
Wednesday – วันของเทพเจ้าแห่งปัญญา (Woden's Day)
Wednesday ได้รับการตั้งชื่อตาม Woden หรือ Odin เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานนอร์ส ชื่อในภาษาอังกฤษเก่าคือ "Wōdnesdæg" ส่วนในละตินคือ "dies Mercurii" หรือ "วันของ Mercury" ผู้เป็นเทพแห่งการสื่อสาร Odin คือเทพเจ้าแห่งภูมิปัญญา เวทมนตร์ และการสืบเสาะหาความรู้ เขาแลกดวงตาข้างหนึ่งเพื่อได้ครอบครองความลับแห่งจักรวาล และแขวนตนเองไว้กับต้นไม้โลก Yggdrasil เพื่อค้นพบเวทมนตร์รูน Wednesday จึงเป็นวันแห่งการแสวงหาความรู้ การเดินทางทางจิตวิญญาณ และการเสียสละเพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
Thursday – วันของเทพเจ้าสายฟ้า (Thor's Day)
Thursday สืบทอดนามของ Thor เทพเจ้าสายฟ้าอันทรงพลัง เทพผู้ถือค้อนวิเศษ Mjölnir ที่สามารถทำลายยักษ์ร้ายและปกป้องมนุษย์
ชื่อเดิมในภาษาอังกฤษเก่าคือ "Þunresdæg" (Thunor's Day) มีรากคำใกล้เคียงกับ "thunder" ซึ่งหมายถึงเสียงคำรามของพายุ
Thor เป็นสัญลักษณ์แห่งพลังอำนาจ ความกล้าหาญ และการคุ้มครองผู้บริสุทธิ์ Thursday จึงสะท้อนถึงจิตวิญญาณนักรบที่พร้อมเผชิญกับความท้าทายอย่างไม่หวั่นเกรง
Friday – วันของเทพีแห่งความรัก (Frigg's Day)
Friday ได้ชื่อจาก Frigg เทพีผู้ทรงอำนาจแห่งความรัก ครอบครัว และโชคชะตา หรือเชื่อมโยงกับ Freyja เทพีแห่งความรักและความงามในตำนานนอร์ส ภาษาอังกฤษเก่าเรียกวันศุกร์ว่า "Frīgedæg" ซึ่งสอดคล้องกับ "dies Veneris" ในภาษาละติน อันเป็นวันที่อุทิศให้ Venus เทพีแห่งความรัก Frigg เป็นภรรยาของ Odin และมีบทบาทสำคัญในเรื่องเล่าเกี่ยวกับชะตากรรมของ Baldr บุตรชายของเธอ Friday จึงเป็นวันที่เกี่ยวข้องกับความรัก ความอ่อนโยน และความหวังใหม่
Saturday – วันแห่งเทพเจ้าแห่งการเกษตร (Saturn's Day)
Saturday เป็นวันเดียวในภาษาอังกฤษที่ยังคงรักษาชื่อเทพเจ้าโรมันไว้เต็มรูปแบบ นั่นคือ Saturn เทพเจ้าแห่งการเกษตร การเก็บเกี่ยว และกาลเวลา "dies Saturni" คือคำเรียกในภาษาละติน และกลายมาเป็น "Sæternesdæg" ในภาษาอังกฤษเก่า Saturn เป็นตัวแทนของการเก็บเกี่ยวผลจากการทำงานหนัก สะท้อนถึงช่วงเวลาของการสรุปผลลัพธ์และการทบทวนชีวิต ดังนั้น Saturday จึงเป็นวันพักผ่อนหลังความเหนื่อยยากของสัปดาห์ และเป็นสัญลักษณ์ของความอดทนและผลลัพธ์ที่งดงามจากความพยายาม
Sunday – วันแห่งดวงอาทิตย์ (Sun's Day)
Sunday มาจาก "Sunnandæg" ในภาษาอังกฤษเก่า หรือ "dies Solis" ในภาษาละติน แปลว่า "วันของสุริยัน" ในตำนานนอร์ส เทพี Sól ขับเคลื่อนดวงอาทิตย์บนฟากฟ้า พยายามหลบหนีหมาป่ายักษ์ Sköll การดำรงอยู่ของดวงอาทิตย์จึงเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะเหนือความมืดและความตาย ในศาสนาคริสต์ Sunday ยังถือเป็นวันที่พระเยซูทรงฟื้นคืนพระชนม์ ทำให้กลายเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลอง ความหวัง และการเริ่มต้นใหม่อย่างสดใส

เส้นทางจากไวกิ้งสู่ภาษาโลก
ชื่อวันในภาษาอังกฤษที่เราใช้ในทุกวันนี้ คือมรดกอันล้ำค่าที่สืบทอดมาจากวัฒนธรรมไวกิ้ง ชนเผ่าเจอร์แมนิก และโรมันโบราณ ตำนานของเทพเจ้า ดวงดาว และความเชื่อโบราณ ได้หล่อหลอมเข้ากับภาษาและวิถีชีวิตของมนุษย์ จนกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานของปฏิทินโลกสมัยใหม่
การเข้าใจต้นกำเนิดของชื่อวัน ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราตระหนักถึงอดีตอันน่าอัศจรรย์ แต่ยังเป็นการเชื่อมโยงตัวเราเข้ากับเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของอารยธรรมมนุษย์ที่ดำรงอยู่เหนือกาลเวลา
และในทุกครั้งที่เรากล่าวคำว่า Monday, Friday หรือ Sunday — เราก็กำลังเอ่ยนามของเหล่าเทพเจ้าโบราณ และสะท้อนบทกวีแห่งจักรวาลที่ไม่มีวันสูญสลาย
Comments