Introvert กับ Extrovert ต่างกันยังไงกันแน่ และทำไมคนเยอะมากถึงอ้างว่าตัวเองเป็น Introvert แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่
- SARUP Overseer
- Jun 24
- 2 min read
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า "Introvert" กับ "Extrovert" กันมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะในยุคโซเชียลมีเดียที่ทุกคนชอบติดป้ายกำกับตัวเอง แต่คุณรู้ไหมว่าจริงๆ แล้วความแตกต่างระหว่างสองบุคลิกภาพนี้ลึกซึ้งกว่าที่คิด และมีหลายคนที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวเอง
วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันดีๆ ว่า Introvert กับ Extrovert ต่างกันยังไง ทำไมคนเยอะมากถึงอ้างว่าตัวเองเป็น Introvert แต่จริงๆ ไม่ใช่ และมีบุคลิกภาพแบบอื่นๆ อีกไหมนอกจากสองแบบนี้

บุคลิกภาพ Introvert vs Extrovert คืออะไรกันแน่?
Introvert คือใคร?
Introvert หรือคนที่มีบุคลิกภาพแบบหันเข้าหาตัวเอง ไม่ใช่แค่คนที่ชอบอยู่คนเดียว หรือเป็นคนเงียบๆ อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ วิธีที่พวกเขาเติมพลังงาน
คน Introvert จะ:
เติมพลังงานจากการอยู่คนเดียว - หลังจากวันที่ต้องเจอคนเยอะ พวกเขาต้องการเวลาอยู่คนเดียวเพื่อ "ชาร์จแบต"
ชอบการสนทนาที่มีความลึก มากกว่าการพูดคุยเรื่องผิวเผิน
คิดก่อนพูด มักจะใช้เวลาในการประมวลผลความคิดก่อนที่จะแสดงออก
ไม่ได้เป็นคนเงียบหรือขี้อาย เสมอไป - พวกเขาสามารถเป็นคนสนุกสนานและมีพลังได้ แต่ต้องการเวลาพักผ่อน
Extrovert คือใคร?
Extrovert หรือคนที่มีบุคลิกภาพแบบหันออกสู่ภายนอก เป็นคนที่:
เติมพลังงานจากการอยู่กับคนอื่น - ยิ่งได้เจอคนเยอะ ยิ่งมีแรงมีแรงใจ
ชอบแสดงออกและพูดคุย - มักจะคิดในขณะที่พูด
ชอบเป็นจุดสนใจ และไม่กลัวที่จะอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนหลายคน
ตัดสินใจเร็ว และแสดงออกทางอารมณ์ได้ชัดเจน
ทำไมหลายคนถึงอ้างว่าตัวเองเป็น Introvert แต่จริงๆ ไม่ใช่?
1. ความเข้าใจผิดจากโซเชียลมีเดีย
ในยุคนี้ การเป็น Introvert กลายเป็น "เทรนด์" ที่หลายคนชอบติดป้ายกำกับตัวเอง เพราะมันฟังดูเท่ห์ มีความลึกซึ้ง และเป็นข้อแก้ตัวที่ดีสำหรับพฤติกรรมที่ไม่อยากเข้าสังคม
หลายคนคิดว่าการเป็น Introvert หมายถึง:
ไม่ชอบไปปาร์ตี้ (จริงๆ คน Introvert หลายคนชอบปาร์ตี้ แต่ต้องการเวลาพักหลังจากนั้น)
เป็นคนเงียบ (จริงๆ คน Introvert สามารถเป็นคนพูดเก่งและมีเสน่ห์ได้)
ไม่ชอบเป็นผู้นำ (จริงๆ คน Introvert หลายคนเป็นผู้นำที่ดี)
2. การใช้เป็นข้อแก้ตัว
บางคนใช้การเป็น Introvert เป็นข้อแก้ตัวสำหรับ:
ความขี้เกียจในการเข้าสังคม
ทักษะทางสังคมที่ยังไม่เพียงพอ
ความกลัวในการเผชิญหน้ากับคนอื่น
3. ความสับสนระหว่าง Introvert กับ Social Anxiety
หลายคนเข้าใจผิดระหว่าง Introvert กับ Social Anxiety (ความวิตกกังวลทางสังคม) ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน:
Introvert: เลือกที่จะอยู่คนเดียวเพื่อเติมพลังงาน และสามารถเข้าสังคมได้ดีเมื่อต้องการ
Social Anxiety: กลัวหรือวิตกกังวลเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนอื่น แม้ว่าจะอยากเข้าสังคมก็ตาม
วิธีแยกแยะ Introvert แท้จริงกับ Fake Introvert
สัญญาณของ Introvert แท้จริง:
มีพลังงานหลังจากอยู่คนเดียว - รู้สึกสดชื่นและพร้อมเผชิญโลกหลังจากได้เวลาส่วนตัว
ชอบการสนทนาที่มีความหมาย - ไม่ใช่ว่าไม่ชอบพูดคุย แต่ต้องการเนื้อหาที่มีสาระ
ต้องการเวลาในการตัดสินใจ - ชอบคิดทบทวนก่อนตอบหรือตัดสินใจ
สามารถเข้าสังคมได้ดี แต่ต้องการเวลาพักหลังจากนั้น
มีมิตรภาพที่ลึกซึ้ง แต่จำนวนไม่เยอะ
สัญญาณของ Fake Introvert:
ใช้เป็นข้อแก้ตัวไม่ทำกิจกรรมใดๆ - ปฏิเสธทุกอย่างโดยอ้างว่าเป็น Introvert
ไม่มีเพื่อนสนิทเลย - คน Introvert จริงๆ มักมีเพื่อนสนิทสักคน
ไม่เคยสนุกกับการเข้าสังคม - คน Introvert แท้จริงสามารถสนุกได้ แต่ต้องการเวลาพัก
หลีกเลี่ยงการติดต่อสื่อสารทุกรูปแบบ - อาจเป็นปัญหาทางสังคมมากกว่าการเป็น Introvert
มีบุคลิกภาพแบบอื่นนอกจาก Introvert กับ Extrovert ไหม?
Ambivert - บุคลิกภาพที่ถูกลืม คำตอบคือ "มี" นั่นคือ Ambivert - บุคลิกภาพที่อยู่ตรงกลางระหว่าง Introvert กับ Extrovert ซึ่งจริงๆ แล้วคนส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ โดยคน Ambivert จะมีลักษณะ:
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ตามสถานการณ์ - เป็น Extrovert ได้เมื่อต้องการ และเป็น Introvert ได้เมื่อจำเป็น
เติมพลังงานได้ทั้งสองวิธี - ทั้งการอยู่คนเดียวและการเข้าสังคม
มีความยืดหยุ่นทางสังคม - สามารถปรับตัวเข้ากับกลุมคนได้ดี
ทำงานได้ดีในทุกสถานการณ์ - การศึกษาพบว่าพนักงาน Ambivert มียอดขายเฉลี่ยสูงกว่าพนักงาน Introvert และ Extrovert
บุคลิกภาพย่อยอื่นๆ
นอกจาก Ambivert แล้ว ยังมีแนวคิดที่แบ่งบุคลิกภาพออกเป็น:
Social Introvert - ชอบอยู่กับกลุ่มเพื่อนสนิท แต่ไม่ชอบสังคมใหญ่
Thinking Introvert - ชอบใช้เวลาคิดและใครดูในใจ
Emotional Introvert - ชอบเก็บอารมณ์ไว้ในใจ
Restrained Introvert - ชอบทำอะไรช้าๆ รอบคอบ
ทำไมการทำความเข้าใจบุคลิกภาพถึงสำคัญ?
1. การพัฒนาตัวเอง
เมื่อเราเข้าใจตัวเองจริงๆ เราจะสามารถ:
วางแผนการเติมพลังงาน ที่เหมาะสมกับตัวเอง
เลือกงานและสภาพแวดล้อม ที่เหมาะสม
พัฒนาทักษะ ที่ตัวเองขาดอยู่
2. ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น
การเข้าใจบุคลิกภาพช่วยให้เรา:
เข้าใจคนอื่นมากขึ้น และไม่ตัดสินจากภายนอก
สื่อสารได้ดีขึ้น เพราะรู้ว่าแต่ละคนต้องการอะไร
สร้างมิตรภาพ ที่ยั่งยืนและมีคุณภาพ
3. ประสิทธิภาพในการทำงาน
การศึกษาพบว่าคน Introvert ที่มีทักษะทางสังคมดีจะมีความมั่นใจในตัวเองสูงกว่าคน Introvert ที่ไม่มีทักษะทางสังคม นี่แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาตัวเองในด้านที่เราไม่เก่งมีความสำคัญ
เทคนิคการค้นหาบุคลิกภาพที่แท้จริงของตัวเอง
1. สังเกตพฤติกรรมตัวเอง
ลองสังเกตว่า:
หลังจากปาร์ตี้หรือการประชุมใหญ่ คุณรู้สึกยังไง? เหนื่อยหรือกระปรี้กระเปร่า?
เมื่อต้องตัดสินใจสำคัญ คุณต้องการเวลาคิดหรือตัดสินใจทันที?
ในการสนทนา คุณชอบพูดหลายหัวข้อแบบผิวเผินหรือเจาะลึกเรื่องเดียว?
2. ทำแบบทดสอบที่มีความน่าเชื่อถือ
แบบทดสอบที่ควรลอง:
Myers-Briggs Type Indicator (MBTI) - แม้จะมีข้อจำกัด แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ดีในการเริ่มต้น
Big Five Personality Test - วิทยาศาสตร์รองรับมากกว่า MBTI
Eysenck Personality Inventory - เน้นการวัด Introversion-Extroversion โดยเฉพาะ
3. ขอความเห็นจากคนใกล้ชิด
บางครั้งคนอื่นเห็นเราชัดกว่าที่เรามองตัวเอง ลองถามเพื่อนสนิท ครอบครัว หรือคนที่อยู่ใกล้ชิดว่าเขาเห็นเราเป็นคนแบบไหน
การใช้ความรู้เรื่องบุคลิกภาพในชีวิตประจำวัน
สำหรับคน Introvert:
วางแผนการเข้าสังคม - ให้เวลาตัวเองพักผ่อนหลังจากกิจกรรมใหญ่
พัฒนาทักษะการสื่อสาร - แม้จะไม่ใช่จุดแข็ง แต่ก็เป็นทักษะที่จำเป็น
เลือกสภาพแวดล้อมการทำงาน ที่เหมาะสม - ไม่จำเป็นต้องเลี่ยงงานที่ต้องเจอคน แต่ให้มีเวลาพักผ่อน
สำหรับคน Extrovert:
เรียนรู้การฟัง - บางครั้งการฟังดีกว่าการพูด
ให้เวลาตัวเองคิด ก่อนตัดสินใจสำคัญ
เข้าใจคนอื่น ที่อาจต้องการเวลาในการตอบสนอง
สำหรับคน Ambivert:
ใช้ความยืดหยุ่น เป็นจุดแข็ง
ระวังอย่าให้ตัวเองเหนื่อย จากการปรับเปลี่ยนบทบาทบ่อยเกินไป
ช่วยเป็นสะพานเชื่อม ระหว่างคน Introvert กับ Extrovert
ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง
1. การติดป้ายกำกับตัวเองแบบตายตัว
บุคลิกภาพไม่ใช่กรง - มันเป็นเพียงแนวทางในการเข้าใ่าจตัวเอง ไม่ควรใช้เป็นข้อจำกัดในการพัฒนาตัวเอง
2. การใช้เป็นข้อแก้ตัว
ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกภาพแบบไหน ทุกคนสามารถพัฒนาทักษะที่ตัวเองขาดได้ การเป็น Introvert ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องเรียนรู้ทักษะทางสังคม
3. การตัดสินคนอื่นจากบุคลิกภาพ
แต่ละคนมีความซับซ้อนมากกว่าการจำแนกแค่ 2-3 ประเภท ไม่ควรคาดเดาหรือตัดสินคนอื่นจากบุคลิกภาพเพียงอย่างเดียว
ความจริงที่ว่า "ทุกคนไม่เหมือนกัน"
การเข้าใจว่าตัวเองเป็น Introvert, Extrovert หรือ Ambivert เป็นเพียงจุดเริ่มต้น สิ่งที่สำคัญกว่าคือการใช้ความรู้นี้ในการพัฒนาตัวเองและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น อย่าลืมว่าบุคลิกภาพไม่ได้กำหนดชะตากรรมของเรา มันเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยให้เราเข้าใจตัวเองและคนอื่นได้ดีขึ้นเท่านั้น
การศึกษาสมัยใหม่ยังพบว่าคน Introvert หลายคนสามารถแสดงพฤติกรรมแบบ Extrovert ได้ดี โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาอยู่ในกลุ่มเล็กที่รู้สึกสบายใจ นี่แสดงให้เห็นว่าบุคลิกภาพมีความยืดหยุ่นมากกว่าที่เราคิด
สิ่งสำคัญที่สุดคือการเป็นตัวเองอย่างแท้จริง ไม่ใช่การพยายามเป็นตามป้ายกำกับที่เราติดให้ตัวเอง และเปิดใจเรียนรู้พัฒนาตัวเองในทุกๆ ด้าน
อ้างอิง
Cooper, C. (2021). Individual differences and personality. Positive Psychology
Ueda, H., Yamagata, S., & Kiyokawa, S. (2024). Self-perception and observer ratings in personality assessment. Psychology Research
Grant, A. (2013). Ambiversion and sales performance. University of Pennsylvania Studies
Schmidt, L. A., & Fox, N. A. (1995). Social engagement and introversion interaction. Developmental Psychology
Conklin, E. S. (1924). The concept of ambiversion in personality theory. Psychological Review


Comments