10 เกมจากภาพยนตร์ เกมไหน Success เกมไหน Fail บ้าง
- SARUP Librarian
- Jul 1
- 2 min read
เมื่อพูดถึงเกมที่สร้างจากภาพยนตร์ดัง หลายคนอาจจะนึกถึงเกมที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ เพราะว่าประวัติศาสตร์บอกเราว่าการแปลงภาพยนตร์มาเป็นเกมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็มีบางเกมที่ทำออกมาได้ดีจนได้รับคำชมจากเกมเมอร์ทั่วโลก วันนี้เราจะมาดูกัน 10 เกมจากภาพยนตร์ดัง ว่าเกมไหนประสบความสำเร็จ และเกมไหนที่ล้มเหลว พร้อมเหตุผลที่น่าสนใจ

5 เกมจากภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จ
1. GoldenEye 007 (Nintendo 64) - จาก James Bond: GoldenEye
เกมนี้ถือว่าเป็นตำนานของเกม First-Person Shooter บน Nintendo 64 ที่ออกมาในปี 1997 โดยสร้างจากภาพยนตร์ James Bond เรื่อง GoldenEye ที่ออกฉายในปี 1995
ทำไมถึงประสบความสำเร็จ:
ระบบ Multiplayer ที่สนุกมาก เล่นได้ 4 คนพร้อมกัน
กราฟิกและเสียงที่ดีในยุคนั้น
ภารกิจในเกมที่หลากหลายและน่าตื่นเต้น
การควบคุมที่ลื่นไหลและใช้งานง่าย
เกมนี้ได้คะแนนรีวิวสูงถึง 96/100 จาก Metacritic และกลายเป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดบน Nintendo 64
2. Spider-Man 2 (2004) - จาก Spider-Man 2
เกม Spider-Man 2 ที่ออกในปี 2004 สร้างจากภาพยนตร์ Spider-Man 2 ที่นำแสดงโดย Tobey Maguire เกมนี้โดดเด่นด้วยระบบการเหวี่ยงใยที่สมจริงมาก
ทำไมถึงประสบความสำเร็จ:
ระบบการเหวี่ยงใยที่ใช้ฟิสิกส์จริง ต้องมีตึกให้เกาะใยจริงๆ
โลกเปิดของ New York ที่ใหญ่โตและมีชีวิตชีวา
ภารกิจที่หลากหลาย ทั้งตามเนื้อเรื่องหนังและเพิ่มเติม
ความรู้สึกที่เหมือนจริงในการเป็น Spider-Man
ผลตอบรับและยอดขาย: เกมนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเกม Spider-Man ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา และขายได้ดีในตลาดเกมคอนโซล โดยภาพยนตร์ Spider-Man 2 เองก็ทำรายได้ถึง 783 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก ทำให้เกมได้รับความสนใจอย่างมาก
3. Alien: Isolation (2014) - จาก Alien
แม้ว่าจะไม่ได้สร้างจากภาพยนตร์เรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยตรง แต่ Alien: Isolation ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ Alien ของ Ridley Scott ในปี 1979
ทำไมถึงประสบความสำเร็จ:
บรรยากาศสยองขวัญที่เหมือนจริงและน่ากลัวมาก
AI ของ Alien ที่ฉลาดและคาดเดาไม่ได้
กราฟิกและเสียงประกอบที่สร้างบรรยากาศได้ดีเยี่ยม
เนื้อเรื่องที่น่าติดตามและสอดคล้องกับจักรวาล Alien
ผลตอบรับและยอดขาย: เกมนี้ได้รับรางวัลมากมายและได้คะแนนรีวิวสูงจากนักวิจารณ์ทั่วโลก ขายได้กว่า 2.5 ล้านชุดทั่วโลก และได้รับการยกย่องจากแฟนภาพยนตร์ Alien ว่าเป็นเกมที่ถ่ายทอดบรรยากาศของหนังได้ดีที่สุด
4. The Chronicles of Riddick: Escape from Butcher Bay (2004)
เกมนี้สร้างจากภาพยนตร์ The Chronicles of Riddick และเล่าเรื่องราวก่อนหน้าเหตุการณ์ในหนัง โดย Vin Diesel เองก็มีส่วนร่วมในการพัฒนา
ทำไมถึงประสบความสำเร็จ:
เนื้อเรื่องที่น่าสนใจและเชื่อมโยงกับหนังได้ดี
ระบบการต่อสู้แบบ Stealth ที่สนุก
กราฟิกที่ดีในยุคนั้น
เสียงพากย์โดย Vin Diesel เอง
ผลตอบรับและยอดขาย: เกมนี้ได้รับคำชมจากทั้งแฟนหนังและเกมเมอร์ และขายได้พอสมควรในตลาดคอนโซล การที่ Vin Diesel มีส่วนร่วมในการผลิตทำให้เกมมีคุณภาพสูงกว่าเกมจากหนังทั่วไป
5. Mad Max (2015) - จาก Mad Max: Fury Road
เกม Mad Max ออกในปี 2015 ใกล้เคียงกับการเข้าฉายของ Mad Max: Fury Road และได้สร้างโลกของ Mad Max ที่กว้างใหญ่และรกร้าง
ทำไมถึงประสบความสำเร็จ:
โลกเปิดที่ใหญ่โตและมีรายละเอียดมาก
ระบบการขับรถและการต่อสู้ที่สนุก
บรรยากาศ Post-Apocalyptic ที่สมจริง
การปรับแต่งรถที่หลากหลาย
ผลตอบรับและยอดขาย: แม้จะไม่ได้เป็นเกมระดับ AAA ที่มีชื่อเสียงมาก แต่ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้เล่น ขายได้ประมาณ 1 ล้านชุดทั่วโลก และได้คะแนนรีวิวอยู่ในระดับดี ทำให้ถือเป็นหนึ่งในเกมจากหนังที่ประสบความสำเร็จในยุคใหม่

5 เกมจากภาพยนตร์ที่ล้มเหลว
1. E.T. the Extra-Terrestrial (Atari 2600) - จาก E.T.
เกมนี้ถือเป็นตำนานแห่งความล้มเหลวในวงการเกม ออกในปี 1982 สร้างจากภาพยนตร์ E.T. ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก
ทำไมถึงล้มเหลว:
เวลาพัฒนาสั้นเกินไป (เพียง 5 สัปดาห์)
เกมเพลย์ที่น่าเบื่อและซ้ำซาก
กราฟิกที่แย่มากแม้กระทั่งในยุคนั้น
บัคและปัญหาเทคนิคมากมาย
ผลกระทบทางธุรกิจ: เกมนี้ทำให้ Atari ต้องฝังแผ่นเกมที่ขายไม่ได้หลายล้านแผ่นในทะเลทราย และถือเป็นหนึ่งในสาเหตุของ Video Game Crash ในปี 1983 แม้ว่าภาพยนตร์ E.T. จะทำรายได้ถึง 792 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก แต่เกมกลับกลายเป็นหายนะทางการตลาด
2. Superman 64 (Nintendo 64) - จาก Superman
Superman 64 หรือชื่อเต็มคือ Superman: The New Superman Adventures ออกในปี 1999 และถือเป็นหนึ่งในเกมที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ทำไมถึงล้มเหลว:
ระบบการบินที่ควบคุมยากมาก
กราฟิกที่เบลอและไม่ชัด
ภารกิจที่น่าเบื่อ (บินผ่านห่วงเป็นส่วนใหญ่)
บัคและ Glitch มากมาย
ตัวเลขที่น่าแปลกใจ: แม้จะเป็นเกมที่แย่มาก แต่ Superman 64 กลับขายได้ถึง 500,000 ชุด และกลายเป็นเกมขายดีอันดับ 3 ของ Nintendo 64 ในช่วงแรก ทั้งนี้เพราะชื่อเสียงของ Superman และการขาดข้อมูลรีวิวในยุคนั้น เกมนี้ได้คะแนนเพียง 23/100 จาก GameRankings และกลายเป็นมีมในวงการเกม
3. Catwoman (2004) - จาก Catwoman
เกม Catwoman ออกพร้อมกับภาพยนตร์ Catwoman ที่นำแสดงโดย Halle Berry ในปี 2004 ซึ่งทั้งหนังและเกมต่างก็ได้รับการตอบรับที่แย่
ทำไมถึงล้มเหลว:
เกมเพลย์ที่จำเจและไม่มีความท้าทาย
กราฟิกที่ดูล้าสมัยแม้ในยุคนั้น
ระบบการต่อสู้ที่น่าเบื่อ
เวลาเล่นสั้นมาก (ประมาณ 4-5 ชั่วโมง)
ผลกระทบทางธุรกิจ: เกมนี้ได้คะแนนต่ำมากจากนักวิจารณ์และไม่ได้รับความสนใจจากผู้เล่น ขายได้น้อยมากเมื่อเทียบกับต้นทุนการผลิต ทั้งนี้ภาพยนตร์ Catwoman เองก็ประสบความล้มเหลวทางการตลาดเช่นกัน ทำรายได้เพียง 82 ล้านดอลลาร์ทั่วโลกเมื่อเทียบกับงบประมาณ 100 ล้านดอลลาร์
4. X-Men Origins: Wolverine (2009) - จาก X-Men Origins: Wolverine
เกม X-Men Origins: Wolverine ออกพร้อมกับภาพยนตร์ในปี 2009 และถือเป็นอีกหนึ่งเกมจากหนังที่ไม่ประสบความสำเร็จ
ทำไมถึงล้มเหลว:
เกมเพลย์ที่ซ้ำซากและไม่มีความหลากหลาย
กราฟิกที่ไม่ได้มาตรฐานเมื่อเทียบกับเกมในยุคเดียวกัน
ระบบการต่อสู้ที่ง่ายเกินไปและไม่มีความท้าทาย
เนื้อเรื่องที่ตื้นเขินและไม่น่าสนใจ
ผลกระทบทางการตลาด: แม้ว่าภาพยนตร์ X-Men Origins: Wolverine จะทำรายได้ถึง 373 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก แต่เกมกลับได้รับการตอบรับที่แย่มาก ขายได้น้อยกว่าที่คาดหวัง และได้คะแนนรีวิวต่ำจากนักวิจารณ์
5. The Amazing Spider-Man 2 (2014) - จาก The Amazing Spider-Man 2
ต่างจาก Spider-Man 2 ในปี 2004 เกม The Amazing Spider-Man 2 ที่ออกในปี 2014 กลับได้รับการตอบรับที่แย่มาก
ทำไมถึงล้มเหลว:
ระบบการเหวี่ยงใยที่ไม่สมจริง (เหวี่ยงได้แม้ไม่มีตึก)
ภารกิจที่น่าเบื่อและซ้ำซาก
กราฟิกที่ไม่ได้ดีเท่าที่ควร
บัคและปัญหาเทคนิคมากมาย
ผลกระทบทางการตลาด: เกมนี้ทำให้แฟน Spider-Man หลายคนคิดถึง Spider-Man 2 ในปี 2004 และขายได้ไม่ดีเท่าที่ควร แม้ว่าภาพยนตร์ The Amazing Spider-Man 2 จะทำรายได้ถึง 708 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก แต่เกมกลับไม่สามารถดึงดูดผู้เล่นได้เท่าที่ควร
ตัวเลขและบทเรียนจากตลาดเกม
จากที่เราได้ดู 10 เกมนี้ เราจะเห็นได้ว่าเกมจากภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมักจะมีจุดร่วมกัน และที่น่าสนใจคือความสัมพันธ์ระหว่างความสำเร็จของหนังกับเกมไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันเสมอไป
ตัวอย่างที่น่าสนใจ:
GoldenEye 007: ขายได้กว่า 8 ล้านชุดและสร้างรายได้ 250 ล้านดอลลาร์
Superman 64: แม้จะแย่มาก แต่ขายได้ถึง 500,000 ชุด เพราะชื่อเสียงของตัวละคร
สิ่งที่ทำให้สำเร็จ:
เวลาพัฒนาที่เพียงพอ
การเข้าใจแก่นของตัวละครและเรื่องราว
ระบบเกมเพลย์ที่สนุกและเหมาะสมกับธีม
การใส่ใจในรายละเอียดและคุณภาพ
สิ่งที่ทำให้ล้มเหลว:
การรีบทำให้ทันกับการเข้าฉายของหนัง
การคิดว่าชื่อเสียงของหนังจะทำให้เกมขายได้
ขาดความเข้าใจในสิ่งที่แฟนต้องการ
คุณภาพที่ต่ำและบัคมากมาย
ในปัจจุบัน การสร้างเกมจากภาพยนตร์ยังคงเป็นความท้าทายใหญ่ แต่ถ้าทำได้ดี ก็สามารถสร้างผลงานที่น่าจดจำและประสบความสำเร็จได้ เหมือนกับ GoldenEye 007 ที่ยังคงเป็นตำนานอยู่จนทุกวันนี้
อนาคตของเกมจากภาพยนตร์จะเป็นอย่างไร? เราต้องรอดูกันต่อไป แต่สิ่งที่แน่นอนคือ ผู้พัฒนาต้องใส่ใจในคุณภาพและเข้าใจว่าการสร้างเกมที่ดีต้องใช้เวลาและความพยายามมากกว่าการแค่ใช้ชื่อเสียงของหนังดัง
อ้างอิง
Wikipedia - GoldenEye 007 (1997 video game)
Nintendo Fandom - GoldenEye 007 sales data
Wikipedia - Superman 64 sales figures
Comments